โรงแรมหรูในหลวงพระบาง
— “เดอะหลวงทราย เรสซิเดนซ์” —
ปลายฝนต้นหนาว เป็นช่วงเวลาที่กำลังพอเหมาะสำหรับการไปเยือน “หลวงพระบาง (ຫຼວງພຣະບາງ)” เมืองที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโก แห่งสาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาว (ສາທາລະນະລັດ ປະຊາທິປະໄຕ ປະຊາຊົນລາວ) โดยวันนี้ขอแนะนำทางเลือกที่พักหรูระดับห้าดาว “เดอะหลวงทราย เรสซิเดนซ์” ย้อนยุคสไตล์โคโลเนียล เพื่อให้การเดินทางมาเยือนเมืองน่ารักแห่งนี้เป็นวันพักผ่อนที่ไม่ธรรมดา
สามารถติดตามข่าวสารและอัพเดทบันทึกการเดินทางกันได้ตามช่องทางข้างล่างครับ

“หลวงพระบาง (ຫຼວງພຣະບາງ)”
เป็นเมืองหลวงของ “แขวงหลวงพระบาง” ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศลาว เป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
ย้อนไปเมื่อราวกลางปี 2014 ซึ่งมีโอกาสได้ไปเยือนปลายทางในฝันแห่งนี้เป็นครั้งแรก ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณ “เคทีซี” — บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) — ซึ่งได้จัดกิจกรรมดีๆ “KTC Real Team” (ครั้งที่ 28) ในครั้งนั้นโชคดีได้รับเลือกเป็นตัวแทนในโครงการนี้ หากมีโอกาสจะย้อนเล่าเรื่องทริปครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่ควรพลาดกันอีกรอบอย่างแน่นอน
(ตามรอยทริป) ระหว่างนี้สามารถย้อนชมเรื่องราวเก่าๆ ได้ตามลิงค์ด้านล่างครับ
Once in a Life Time Experience on an Ultimate Journey with “Mekong Cruises”
Episode I : Slow Life in “Northern Laos”
— เอพพิโซด 1 : วิถีชีวิตแบบเนิบๆ ณ “ลาวตอนเหนือ”Episode II : Sabaidee “Luang Prabang”, the World Heritage Town
— เอพพิโซด 2 : เยือนเมืองมรดกโลก “หลวงพระบาง”Episode III : From “Pakse” with Love
— เอพพิโซด 3 : อำลาทริปที่ “ปากเซ”
“เดอะหลวงทราย เรสซิเดนซ์” เป็นหนึ่งในโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่เมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม “SLH” หรือ “Small Luxury Hotels of the World” — slh.com — ซึ่งได้รวบรวมโรงแรมขนาดเล็กเกิน 500 แห่ง จากทั่วโลกกว่า 80 ประเทศ ที่ผ่านเกณฑ์ว่าหรูหราน่าอยู่มีเอกลักษณ์เฉพาะโดดเด่น และไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจากการที่เป็นแฟนคลับโรงแรม “SLH” เป็นทุนเดิม จึงตื่นเต้นอย่างมากกับการมาเยือนหลวงพระบางครั้งนี้ ยังมีโอกาสได้พักโรงแรมสุดหรูเช่นนี้อีกด้วย
เมื่อมาถึงโรงแรมก็จะเห็นโถงต้อนรับบริเวณชั้นหนึ่ง เป็นส่วนที่เปิดรับอากาศธรรมชาติ สามารถระบายอากาศได้ดีในช่วงหน้าร้อน ซึ่งภายในห้องจะประดับตกแต่งไปด้วยของย้อนยุค อาทิเช่น นาฬิกาโบราณและพัดลมเก่า ซึ่งสั่งมาจากประเทศฝรั่งเศส มีอายุอยู่ในช่วงปี 1910 ถึง 1930 ภายในโถงก็จะมีโซฟาสีแดงกำมะหยี่ รวมไปถึงโคมไฟติดผนังที่งดงามลงตัว สร้างบรรยากาศชวนให้อยู่สบายตั้งแต่ย่างก้าวแรกที่มาถึง




ห้องพักที่ได้เป็นแบบ “Pioneer Suites” ซึ่งแม้ว่าจะเป็นห้องประเภทเริ่มต้น แต่ก็หรูหราอยู่สบายมากพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งระเบียง ส่วนนั่งเล่น รวมไปถึงห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่กว้างขวาง
“Pioneer Suites”
มีห้องพักให้เลือกทั้งแบบเตียง “King” หรือ “Twin” ซึ่งหากต้องการเตียงเสริมสามารถแจ้งทางโรงแรมได้ — มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ถัดมาเป็นห้องอาหารหลักของทางโรงแรม “La Belle Epoque” ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังโถงต้อนรับ มีส่วนรับประทานอาหารทั้งในห้องแอร์ และบริเวณเฉลียงที่ยื่นออกไปด้านนอกพร้อมชมวิวริมสวน รองรับแขกได้ประมาณ 50 คน ให้บริการตั้งแต่อาหารเช้าไปจนถึงดินเนอร์มื้อค่ำ เสิร์ฟด้วยอาหารท้องถิ่นของประเทศลาวและเพื่อนบ้านอาเซียนที่หลากหลาย รวมไปถึงเมนูสากลตะวันตกด้วย
เพดานห้องอาหารจะตกแต่งด้วยหวาย ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ประสานกับการออกแบบสไตล์โคโลเนียลของโรงแรมได้อย่างลงตัว
อาหารเช้าของโรงแรมสามารถเลือกได้หลายอย่าง แต่ถูกใจ “Egg Benedict” รสชาติดีไม่ผิดหวัง ขนาดออกไปตักบาตรและทานอาหารเช้าข้างทางมาแล้ว ยังอดใจไม่ได้ที่จะต้องทานเพิ่มจนพุงกางอิ่มไปแทบทั้งวัน
“1861 Bar” เป็นตั้งแต่ห้องจิบชายามบ่าย ไปจนถึงสถานที่โรแมนติกยามค่ำคืนสำหรับการมานั่งดื่ม พร้อมกับฟังเพลงสบายๆ กับคนพิเศษได้เช่นกัน หากมีโอกาสมานั่ง อย่าลืมที่จะลองสั่ง “1861 Vesper” เมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของบาร์ประจำโรงแรม
โรงแรมจะมีสระว่ายน้ำขนาด 20 เมตร สามารถมาพักผ่อนหย่อนใจได้ตลอดทั้งวัน พร้อมเสิร์ฟของทานเล่นและเครื่องดื่มบริเวณริมสระ ซึ่งปัจจุบันได้มีการต่อเติมเป็นส่วนห้องอาหารบรรยากาศริมสระ “Terrasse des Colonies”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ของทางโรงแรม — luangsayresidence.com