พักร้อนแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดหรู : X25 พูลวิลล่าโซนใหม่
— “ศรีพันวา” —
ทริปแรกหลังจากไม่ได้ออกไปไหนนานมาก วันนี้ขอพาไปภูเก็ตกลับไปนอน “ศรีพันวา” รีสอร์ทสุดหรูเป็นครั้งที่สอง ถือว่าผ่านมาจากครั้งก่อนหลายปีทีเดียว โดยจะเปลี่ยนบรรยากาศลองพักโซนใหม่ล่าสุดที่รู้จักกันในชื่อว่า “X25” เปิดตัวไปต้นปีที่แล้วนี้เอง จัดว่าเป็นน้องใหม่สุดเฟี้ยวที่มาครบพร้อมกับความหรูหราเช่นเคย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็ตามมาได้เลยครับ
ออกเดินทางจากเชียงใหม่แต่เช้า ต้องไปต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ ตอนแรกตั้งใจว่าจะบินตรง แต่อย่างที่ทราบว่าช่วงนี้เที่ยวบินค่อนข้างจำกัด จึงมีทางเลือกค่อนข้างน้อย ทริปนี้มีเหตุให้เลื่อนเที่ยวบินอยู่หลายรอบ กว่าจะได้ไฟล์ทและวันที่ต้องการก็วุ่นวายเอาเรื่อง บินไปถึงภูเก็ตก็บ่ายแก่ๆ รวมขับรถจากสนามบินภูเก็ตเจอทั้งฝนและรถติด กว่าจะเข้าที่พักได้ก็พระอาทิตย์ตกพอดี วันแรกอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เจอทั้งฝนและลมต้อนรับกันเลยทีเดียว เช็คอินเสร็จก็มีรถมาส่งถึงด้านล่างวิลล่า แขกที่มาพักโซนนี้สามารถนำรถมาจอดได้ แต่เพื่อความสะดวกระหว่างที่พักอยู่ก็จะสามารถโทรเรียกให้รถมารับไปส่งตามจุดต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สำหรับ “X25” ที่มาพักรอบนี้ จะมีความพิเศษกว่าโซนอื่น ภายนอกของตัวอาคารจะเป็นโทนสีน้ำเงินทั้งหมด ประกอบไปด้วยวิลล่าทั้งหมด 4 หลัง แบบ “ลักซูรีเรสซิเดนเชียลพูลวิลล่า 1 ห้องนอน (1BR Luxury Residential Pool Villa)” อยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกัน มีสระว่ายน้ำส่วนตัวทั้งหมด และก็มีพื้นที่ส่วนกลางด้านนอกที่ใช้ร่วมกันเฉพาะแขกที่พักโซนนี้เท่านั้น รวมไปถึงสระว่ายน้ำใหญ่พร้อมน้ำตก จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาพักรีสอร์ทหรูๆ และต้องการมีความเป็นส่วนตัวพร้อมสำหรับสังสรรค์หรือจัดปาร์ตี้ริมสระน้ำกับเพื่อนสนิทเป็นกลุ่มโดยไม่ต้องเกรงใจคนอื่น หรือหากมีครอบครัวใหญ่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะทุกคนสามารถมาใช้เวลาร่วมกับครอบครัวเล่นน้ำสระใหญ่ด้วยกัน และเมื่อถึงเวลาแยกย้ายก็สามารถกลับไปพักห้องส่วนตัวกันตามอัธยาศัยได้ทันที
“X25 / Luxury Residential Pool Villa”
เป็นโซนวิลล่าบนพื้นที่ 1,275 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพูลวิลล่า 4 หลัง ซึ่งสามารถจองแบบเหมารวม แยกเดี่ยว หรือว่าจองทีละคู่ก็ได้เช่นกัน เป็นโซนที่เห็นวิวของแหลมพันวาแบบรอบทิศ 360 จึงเหมาะสำหรับชมวิวทั้งยามพระอาทิตย์ขึ้นและตกจากสระว่ายน้ำหลักบริเวณพื้นที่ใช้สอยส่วนกลาง
ทุกหลังจะมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างกันด้วยการออกแบบจัดวางผังห้องพักและโทนสี ซึ่งภายในห้องจะออกแนวโทนสีขาวเป็นหลัก ให้ความรู้สึกผ่อนคลายในความหรูหรา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ “สีชมพูฟูเชีย (Fuschia)” ออกแนวเหมือนสีของนกฟลามิงโกหวานไปอีกแบบ หรือ “ฟ้าเทอร์ควอยซ์ (Turquoise)” ขึ้นอยู่กับว่าได้หลังไหน
ห้องคืนนี้เป็น “X25 — Villa 2” จากประสบการณ์ที่ได้เข้าพัก และมีโอกาสไปแอบส่องหลังอื่นๆ มาครบหมดแล้ว ถือว่าชอบวิลล่าหลังนี้ที่สุด หากต้องการตามรอยแนะนำว่าควรจองล่วงหน้านานๆ เพื่อที่จะได้ไม่พลาด ทั้งนี้ถึงแม้ว่าวิลล่าโซนนี้ทุกหลังจะเห็นวิวทะเล แต่ห้องนี้จัดว่าเด็ดเห็นทะเลจากทุกมุมทั้งห้องนอนและห้องน้ำ สามารถนอนชมจากบนเตียงได้ตลอดทั้งวัน รวมไปถึงห้องน้ำที่เวลาแช่น้ำในอ่าง ก็พร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเวลาดีๆ แบบอารมณ์ส่วนตัวหรือพร้อมกับคนพิเศษคงฟินสุดๆ โดยส่วนตัวเป็นอีกเหตุผลที่ขอเลือกพักห้องนี้ เพื่อที่จะได้ถ่ายห้องพักและสระว่ายน้ำช่วงแสงสุดท้าย เสียดายผิดแผนวันแรกมาถึงช้ากว่ากำหนดและก็เจอฝนอีก จึงไม่ทันเก็บบรรยากาศกลับมา (สงสัยต้องมีแก้มืออีกรอบ)
ห้องน้ำจัดว่ากว้างขวางสะดวกสบายและหรูหรามาครบ ด้วยโทนสีขาวพร้อมกับอ่างล้างหน้าแบบคู่ สามารถใช้งานโดยไม่ต้องแย่งกัน เพราะปกติสาวๆ มักจะใช้เวลากันอยู่นานมาก มุมด้านในจะเป็นห้องแต่งตัวแบ่งเป็นสองฟากเช่นกัน พร้อมห้องน้ำที่ใช้ระบบโถอัตโนมัติโนแฮนด์ เดินไปถึงระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวเจอ ก็จะเปิดฝาให้เองพร้อมระบบอุ่นฝารองและทำความสะอาดหลังใช้งาน เวลาชำระก็กดปุ่มแสนสะดวกเหมือนตอนเที่ยวญี่ปุ่น หากไม่อยากแช่อ่างก็มีห้องอาบน้ำพร้อมฝักบัวแบบฝนตก (Rain Shower)” สายอาบฝักบัวไม่ผิดหวังแน่นอน ขอรับประกันความแรงและอุณหภูมิน้ำ
“Luxury Residential Pool Villa”
วิลล่าแต่ละหลังจะมีพื้นที่ประมาณ 140-150 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบ “Infinity Pool” ทุกห้อง ซึ่งมีรูปแบบต่างกันไปตามลักษณะแลนด์สเคปของห้องพัก บางห้องมีจุดเด่นที่วิวแบบพาโนรามา (X25-2) ในบางวิลล่า เพื่อเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมเดิมให้มากที่สุด จึงออกแบบให้มีต้นไม้เป็นเกาะขึ้นมาตรงกลางสระว่ายน้ำ โดยไม่ต้องตัดของเดิมทิ้ง ทำให้มีเอกลักษณ์ไปอีกแบบ ออกแบบอาคารให้สอดคล้องตามลักษณะภูมิประเทศ หรือห้องอาจจะมีระเบียงชมวิวด้านนอกกว้างเป็นพิเศษ ห้องด้านทิศตะวันออกจะเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้จากห้องนอน และทิศตะวันตกก็เหมาะสำหรับช่วงพระอาทิตย์ตกยามเย็น วิลล่าทุกห้องจะเห็นวิวทะเลอันดามัน สามารถนอนชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกสุดเอ็กซ์คลูซีฟได้จากบนเตียง
“Infinity Pool”
ห้องพักแบบ Pool Villa ทุกห้อง สระเป็นแบบ “Infinity Pool” สามารถนอนแช่ Jacuzzi นวดตัวชมวิวจากในสระน้ำได้ตลอดทั้งวัน รวมถึงว่ายได้แบบยาวสุดขอบสระตลอดแนวห้องพัก
“Bose Sound System”
ภายในห้องจะเน้นการพักผ่อน วิลล่าทุกหลังจะติดตั้งเครื่องเสียง “Bose” ตามสไตล์ของศรีพันวา สามารถเปิดเพลงจาก iPod ที่รวมเพลงฮิตสายแดนซ์และโรแมนติกไว้ ซึ่งสาวก Apple ก็สามารถเปิดจาก iPhone ได้เลยเช่นกัน
“Complimentary Mini Bar & Nespresso Coffee”
ห้องพักทุกห้องจะมีเครื่องชงกาแฟ “Nespresso” รวมไปถึงมินิบาร์ที่มีเติมให้เต็มตลอดทุกวัน หากไม่ออกไปไหน ทางรีสอร์ทได้เตรียมอาหารญี่ปุ่น (มาม่าคัพ) ไว้ให้สำหรับยังชีพด้วย รวมถึงของกินเล่นที่มีในบาร์ และเครื่องดื่มในตู้เย็นที่มีอย่างเพียงพอ
“Tropical Contemporary Design”
การออกแบบวิลล่าทุกหลังทั้งด้านในและภายนอก เป็นการออกแบบโดยทีมสถาปนิกดัง “บริษัท แฮบิตา จำกัด (Habita Architects)” ซึ่งได้ออกแบบรีสอร์ทและโรงแรมระดับห้าดาวในประเทศไทยและต่างประเทศมากมาย รวมถึงโรงแรมในเครือศรีพันวา จึงรับประกันได้ถึงคุณภาพมาตรฐานระดับสูง และการออกแบบเข้าหาสิ่งแวดล้อม รักษาคงสภาพธรรมชาติเดิมไว้อย่างดีที่สุด
ตัดภาพไปตอนเช้าอีกวันเลยดีกว่า ช่วงที่พักเป็นตอนกำลังเปิดเมือง ห้องพักในโซนว่างครบหมดแขกพึ่งเช็คเอาท์คืนก่อนหน้า จนทำให้ X25 รวมถึงสระว่ายน้ำส่วนกลางไม่มีแขกคนอื่นเลย เล่นกันเองแบบไม่ต้องมีคนมาแย่งเล่นเป็นส่วนตัวสุดๆ ว่าแล้วจึงมีโอกาสได้แวะชมห้องอื่นด้วยว่าเป็นยังไงบ้าง
เริ่มกันที่ “Villa 1” ห้องพักจะอยู่ด้านบนน้ำตกของสระว่ายน้ำส่วนกลาง หันหน้าออกไปทางฝั่งตะวันออก ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทน “สีชมพูฟูเชีย” เช่นกัน ชอบทั้งสองสีแต่แอบปันใจให้สีชมพูมากกว่านิดนึง เห็นแล้วนึกถึงนกฟลามิงโก มีบันไดเดินขึ้นไปข้างบน เหมาะสำหรับสายต้นไม้ จะเห็นวิวสีเขียวและมีวิวทะเลอยู่ด้านหลัง พร้อมชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ห้องนี้เคยเห็นดาราคนดังเคยอัพ Instagram เช็คอินตอนเปิดโซนนี้ใหม่ๆ อยู่เหมือนกัน
หลังถัดมา “Villa 3” เป็นโซนด้านทิศตะวันตกเช่นกัน เป็นเพียงห้องเดียวที่มีระเบียงสำหรับชมวิว เหมาะสำหรับทำกิจกรรมยามบ่ายริมสระว่ายน้ำ รวมถึงจิบกาแฟพร้อมรอชมพระอาทิตย์ตก ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสี “Turquoise”
ปิดท้ายกันด้วย “Villa 4” เป็นฝั่งตะวันออกที่ปกคลุมด้วยต้นไม้และเห็นวิวทะเล ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสี Turquoise มีจุดเด่นที่เกาะกลางสระว่ายน้ำที่มีต้นไม้โผล่ขึ้นมาตรงกลาง เป็นแลนด์มาร์คที่นิยมมาถ่ายรูป รวมไปถึงเป็นวิลล่าหลังเดียวที่สามารถถ่ายวิวหน้าห้องพักจากด้านนอกได้ (หากไม่มีโดรน) แต่มีข้อเสียนิดนึง เนื่องจากด้านนอกจะอยู่ไม่ห่างจากสระว่ายน้ำหลักส่วนกลาง บางครั้งอาจรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว 100% หากมีแขกห้องอื่นเดินเล่นมาใกล้บริเวณนั้น
อาหารเช้าที่ศรีพันวาเสิร์ฟกันที่ “บาบาพูลคลับ (Baba Poolclub)” ห้องอาหารหลักของรีสอร์ทให้บริการมื้อเช้า กลางวัน และเย็น ช่วงที่ไปพักน่าจะยังไม่เปิดไลน์บุฟเฟ่ต์เต็มร้อย แต่ก็สามารถสั่งอาหารได้ตลอด เมนูแนะนำก็เป็น “Baba Egg Benedict” ซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยเจอตามโรงแรมอื่นบ่อยนัก สำหรับไข่ดาวน้ำของที่นี่จะราดด้วยซอสสูตรเฉพาะ ซึ่งมาแล้วก็ต้องสั่งตลอด นอกจากนี้ ขนมจีนแกงปูก็รสเผ็ดกลมกล่อมถึงใจเนื้อปูเน้นๆ ซึ่งเมนูแกงหากเข้าใจไม่ผิดจะเปลี่ยนสลับไปตามวันแล้วแต่ดวงครับ
“บาบา พูลคลับ (Baba Poolclub)”
เป็นศูนย์กลางของศรีพันวา มีพื้นที่รวม 5,000 ตารางเมตร ให้บริการอาหารมื้อเช้า กลางวัน และเย็น ภายในอาคารจะรวมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มองเห็นวิวทะเลอันดามัน
กลับมาศรีพันวารอบนี้ ตั้งใจไว้ว่าจะขึ้นไปนั่งชมวิวบน “Baba Nest” สักครั้ง รอบแรกที่มายังไม่ทันเปิดให้บริการเลย จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องขึ้นไปชมสักครั้งเมื่อมาพัก เพราะได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วเรื่องวิวที่สวยที่สุดบนปลายแหลมพันวา คราวนี้ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสมคำร่ำลือรึเปล่า ตอนแรกดูพยากรณ์ไว้วันที่มาถึงฝนตก บวกกับคิดว่ามาถึงคงยังเหนื่อยเลยจองไว้คืนสุดท้ายก่อนกลับดีกว่า
หลังจากได้ขึ้นไปแล้ว บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น “1,000 บาท ต่อคน” (เรทสำหรับแขกของโรงแรม) หากสนใจต้องเช็คอัพเดทราคากันอีกทีและจองล่วงหน้าด้วย เนื่องจากข้างบนมีพื้นที่ไม่มากจึงจำกัดปริมาณแขกที่ขึ้นไป โดยนำไปใช้เป็นเครดิตสั่งของทานเล่นและเครื่องดื่มได้ วิวข้างบนถือว่าสุดยอดไม่ผิดหวังที่หากไปถึงแล้วต้องหาโอกาสขึ้นไปชมสักครั้ง รายละเอียดเพิ่มเติมรอแวะชมตอนแยกอีกทีนะครับ
ป.ล. ตอนจองแนะนำว่าลองสอบถามทางโรงแรม (หากยังมีที่ว่าง) ขอแนะนำโต๊ะหัวมุมด้านขวาบนจะสามารถถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ตกได้ดีสุด หรือโซนขวามือด้านริมน้ำตลอดแนวก็จัดว่ารองลงมา หากไม่ได้หรือที่นั่งเต็มจริงๆ ทุกโต๊ะก็ถือว่าวิวสวยมากๆ แล้วครับ
บาบาเนส (Baba Nest Exclusive Rooftop Bar)
บาร์ที่อยู่ชั้นดาดฟ้าของตึก จุดชมวิวสูงสุดของศรีพันวา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของรีสอร์ทและแหลมพันวา เสิร์ฟ Cocktail และเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ พร้อมของทานเล่น Mexican Tapas ท่ามกลางบรรยากาศยามเย็นเมื่อพระอาทิตย์ตกจากปลายแหลมพันวา เห็นวิวทะเลอันดามันรอบทิศรายล้อมไปด้วยหมุ่เกาะน้อยใหญ่
Google Street View
วิวจากด้านบนจุดชมวิวที่สูงสุด สวยจริงจนอากู๋ยังต้องปีนขึ้นมาเก็บลงบนแผนที่ ว่าแล้วก็วาร์ปไปดูกันเลย — “คลิ๊ก“
สำหรับการจอง “บาบาเนส”
เวลาเปิดให้บริการ : 17.00 ถึง 20.00 — กรณีฝนตกจะไม่เปิดให้บริการ
คิดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ — 1,000 บาท ต่อคน (สำหรับลูกค้าที่เข้าพักโรงแรม) และ 2,000 บาท ต่อคน (สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้เข้าพักโรงแรม) ในกรณีหลังต้องทำการจองและชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ไม่สามารถคืนเงินได้
การยกเลิก หรือไม่มาตามการจอง ลูกค้าที่เข้าพักโรงแรมจะถูกเรียกเก็บ 100% ท่านละ 1,000 บาท
การจองจะต้องมาให้ตรงเวลา ไม่สายเกินกว่า 15 นาที — ต้องแจ้งล่วงหน้าที่ 076 371-008
โทร : 076 371-008 หรือ จองผ่าน Operator จากห้องพัก
ขอสรุปคร่าวๆ เกี่ยวกับการกลับมาเยือน “ศรีพันวา” ทริปนี้ตามประสบการณ์ที่ได้สัมผัส สำหรับห้องพัก “X25 — 1 Bedroom Luxury Residential Pool Villa” เป็นห้องที่อยู่สบายมาก ด้วยโทนสีภายในห้องทำให้รู้สึกผ่อนคลาย วิวจากห้องพักก็หลากหลายต่างกันไป แต่ชอบสุดในโซนนี้ต้องยกให้ “Villa 2” หากเทียบกับห้องพักรอบที่แล้ว ถือว่าชอบคนละแบบ สำหรับ “2BR Luxury Pool Villa” ที่มาครั้งก่อน ถึงแม้ว่าเวลาผ่านไปหลายปี ก็ยังคงรู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์หรูหรา และได้กลิ่นอายของศรีพันวา ห้องพักที่เรียงตัวตามแนวเขาถือว่าเป็นมุมที่สวยที่สุด มองเห็นทะเลแบบเปิดโล่ง พื้นที่ใช้สอยในวิลล่าจะมากกว่า มีส่วนพื้นที่ระเบียงและศาลาด้านนอกที่กว้างขวาง รวมไปถึงห้องภายในมีส่วนห้องนั่งเล่น สามารถใช้เป็นห้องนอนรองได้อีกด้วย สระว่ายน้ำถือว่าขนาดใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม วิลล่าที่มาพักคราวนี้ได้เปรียบที่ความสดใหม่ สีสันอาคารและภายนอกที่สดใส ชวนให้อยากลองมาสัมผัสเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง ภายในห้องตกแต่งสีขาวเป็นอีกอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและหรูหราไปพร้อมกัน และเป็นวิลล่า 4 หลัง อยู่ภายในบริเวณเดียวกัน เหมาะสำหรับมาพักกับเพื่อนสนิทหรือครอบครัวใหญ่ ที่สามารถใช้เวลาร่วมกันได้มากกว่า หรือกรณีที่มาพักเพียงลำพัง ส่วนตัวแล้วถือว่าชอบทั้งคู่แบบรักพี่เสียดายน้อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล และด้วยส่วนต่างของราคาพอสมควร ห้องพักโซนใหม่นี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จูงใจและน่าสนใจมากสำหรับผู้ที่สนใจพักวิลล่าแบบมีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยเช่นกันครับ ก่อนที่จะลืม ช่วงนี้มีโปรที่เห็นแล้วต้องบอกต่อ หากพ้นช่วงนี้ไปคงไม่บ่อยนักที่จะเห็นโปรราคาประมาณนี้อีก รายละเอียดตามด้านล่างนี้เลยครับ
Sri panwa — “เราเที่ยวด้วยกัน (เฟส 3)”
ช่วงเวลาการจอง : ตั้งแต่ 8 ตุลาคม 2564 ถึง “จนกว่าสิทธิ์จะหมด”
เข้าพัก : ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2565ราคาห้องพัก “เริ่มต้นที่ 5,999 บาท” โดยเป็นราคาห้องประเภท “Pool Suite” หลังจากที่หักส่วนลดจาก “เราเที่ยวด้วยกัน” (ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคืน)
ห้องพัก “X25 — 1 Bedroom Luxury Residential Pool Villa” เมื่อจองตรงผ่านโรงแรม เข้าพักตั้งแต่วันนี้ ถึง “31 ตุลาคม” จะเริ่มต้นที่ 10,500 บาท ต่อคืน (เมื่อเข้าพักอย่างน้อย 3 คืน) และ 12,000 บาท ต่อคืน โดยเป็นราคาหลังจากที่หักส่วนลดจาก “เราเที่ยวด้วยกัน” (ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคืน)
รายละเอียดเพิ่มเติม — “คลิ๊ก“
ราคาและรายละเอียดต่างๆ
เป็นราคาสุทธิต่อคืน รวม Service Charge และภาษี เรียบร้อยแล้ว
ราคาที่แจ้งไว้ รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ต่อหนึ่งห้องนอน
ผลไม้ต้อนรับตามฤดูกาลในวันที่เข้าพัก
ของที่ระลึกจากศรีพันวา (เมื่อเข้าพัก 2 คืน เป็นต้นไป)
“ฟรี” มินิบาร์ น้ำ น้ำอัดลม และขนมขบเคี้ยวเติมใหม่ทุกวัน
Wi-Fi ในห้องพัก และเพลงหลากหลายสไตล์ที่คัดบรรจุไว้ใน iPod ตลอดระยะเวลาเข้าพัก
“ฟรี” อาหารเช้า และเตียงเสริม สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี (จำนวน 1 ท่าน) — ยกเว้น ห้องพักแบบ “Pool Suite”
รับส่วนลด 20% สำหรับสปาเมนูปกติ ที่ “คูล สปา” — ยกเว้น ช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ถึง 2 มกราคม 2565
สามารถเข้าถึงการใช้บริการ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Beach Pool / Tennis Courts / Game Room และ Fitness Centerวิธีการจอง
ราคาพิเศษนี้ เฉพาะจองตรงกับโรงแรมเท่านั้น — โทร. 076 371-000
ต้องได้รับสิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” เรียบร้อย
จองโรงแรมล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ก่อนเข้าพัก
ทางโรงแรมจะตรวจสอบห้องว่าง และนำส่งรายละเอียดการจองผ่าน “App ถุงเงิน”
ไม่สามารถจองโรงแรมที่อยู่ในจังหวัดเดียวกันกับทะเบียนบ้านของผู้จองได้
ผู้จองจะได้รับการแจ้งเตือนให้ชำระค่าที่พัก ผ่านช่องทาง “G Wallet” ของ “App เป๋าตัง”
เมื่อชำระค่าที่พักเรียบร้อย จะได้รับคูปองเช็คอินเพื่อเข้าพัก ผ่านทาง “App เป๋าตัง”เงื่อนไขการจอง
“โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” ไม่สามารถยกเลิก หรือคืนเงินได้
แสดง QR Code จาก “App เป๋าตัง” และสแกนหน้าผ่านทาง “App ถุงเงิน” ในช่วงเวลาเช็คอิน
เวลาเช็คอิน 15.00 น. และ เช็คเอาท์ 12.00 น.
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” และโรงแรมกำหนด
ถึงเวลาอำลากันแล้ว เหมือนกับครั้งก่อนที่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก จนอยากอยู่ต่อไม่อยากกลับ หากมีโอกาสหวังว่าจะได้กลับมาพักอีก สำหรับทริปนี้ยังไม่จบเพียงเท่านี้ จะพาไปต่อที่ “Baba Beach Club Natai” ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือเดียวกัน แต่มีความเปรี้ยวกว่าและน่าพักไม่แพ้กัน รอติดตามชมได้เร็วๆ นี้ครับ
ย้อนรำลึกความหลังกับครั้งแรกที่ “ศรีพันวา” กันทางนี้ได้เลยครับ สมัยนั้นลูกชาย “น้องนภ” พึ่งอายุ 2 ขวบ นิดเดียวเองครับ ช่วงเรียนเตรียมอนุบาลโดดเรียนหนีเที่ยวเป็นว่าเล่นครับ ลองไปแวะชมกันได้ครับ
Heaven on Earth at “Sri panwa” — (คลิ๊ก)