โรงแรมริมหาดสำหรับวันพักผ่อนกับครอบครัว
— “รามาดา เขาหลัก รีสอร์ท” —
อยากไปพักผ่อนริมหาดที่ค่อนข้างเงียบสงบ “เขาหลัก” เป็นโรงแรมสไตล์ครอบครัวอีกหนึ่งทางเลือก ไม่วุ่นวายและพลุกพล่านเหมือนภูเก็ต โรงแรมแถบนี้แขกที่มาพักส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งต้องการความเป็นส่วนตัวช่วงวันพักผ่อนยาวๆ รวมถึงเป็นประตูสู่ทะเลอันดามัน ทริปนี้จะชวนมาพักกันที่ “รามาดา เขาหลัก รีสอร์ท (Ramada Khao Lak Resort)” ซึ่งรีโนเวทครั้งใหญ่เสร็จพอดี เปิดบริการอีกครั้งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เองครับ
ก่อนอื่นขอรบกวนกดติดตามและทักทายกันทาง Facebook กันก่อนนะครับ จะได้ไม่พลาดติดตามข่าวสารกันในตอนต่อไป
Facebook. : http://www.facebook.com/oatenroute
Instagram : http://www.instagram.com/oatenroute
หลังจากตอนที่ผ่านมา เช็คเอาท์จากโรงแรมที่ภูเก็ตเสร็จก็นัดรถมารับที่ “เทอร์เทิล วิลเลจ (Turtle Village)” แหล่งรวมร้านอาหารและซื้อของบริเวณหาดไม้ขาวซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินภูเก็ต จึงแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ “The Coffee Club” ระหว่างรอรถมารับเพื่อเดินทางไปเขาหลักครับ
(ความเดิมจากตอนที่แล้ว)
พาครอบครัวไปพักร้อน — “ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต”
https://oatenroute.com/2018/12/01/0105029/
จากบริเวณหาดไม้ขาว ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ เพื่อเดินทางสู่เขาหลัก ก่อนถึงโรงแรมฝนเทลงมาหนักมากจนมองทางแทบไม่เห็น ช่วงที่ไปเที่ยวพายุเข้าพอดี สภาพอากาศแย่ทุกวัน ปกติเขาหลักเห็นพระอาทิตย์ตกทะเลริมฝั่งอันดามันที่สวยมาก มารอบนี้สภาพอากาศไม่เป็นใจเลยครับ
มาเที่ยวเขาหลักรอบนี้ทราบมาว่าโรงแรมได้ทะยอยปรับปรุงหลายส่วน ตั้งแต่ส่วนโถงต้อนรับที่แปลกตาจากตอนมาพักรอบที่แล้วพอสมควร ซึ่งคราวนี้โรงแรมได้ปิดให้บริการไปหลายเดือนตั้งแต่ช่วงที่ย่างเข้าหน้าโลว์ และพึ่งเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อช่วงปลายกันยายนที่ผ่านมานี้เอง
ห้องพักคราวนี้เป็นแบบ “Deluxe Oasis” ซึ่งเป็นห้องเริ่มต้น ได้ปรับปรุงแล้วเสร็จบางส่วนตั้งแต่ปลายปี 2017 ออกแนวโทนสีที่สว่างกว่าเดิม เรียบง่ายและมีสไตล์ สามารถเลือกห้องแบบเปิดประตูถึงกันได้หากมาพักผ่อนแบบครอบครัว ห้องพักจะอยู่ชั้นบนและมีระเบียงกว้าง สำหรับห้องพักในระดับสูงขึ้นไปที่เคยพักรอบก่อนยังเหมือนเดิม คาดว่าจะเร่งทะยอยปรับปรุงในเวลาอันใกล้ครับ
ห้องอาหารหลักของโรงแรม “The Kitchen” จะใช้เป็นห้องอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์สไตล์อเมริกัน อยู่บริเวณด้านล่างของโถงต้อนรับ เป็นส่วนที่ปรับปรุงใหม่เช่นกัน แขกต่างชาตินิยมทานบริเวณระเบียงด้านนอกสูดอากาศบริสุทธิ์ สำหรับด้านในสำหรับคนขี้ร้อนก็จะมีห้องแอร์ให้บริการ
มื้ออาหารเช้าก็จะมีให้เลือกหลากหลาย รวมไปถึงซุ้มสารพัดไข่ และส่วนที่บริการสั่งทำอาหารสดๆ ประจำวันอีกด้วยครับ ซึ่งเมนูอาจเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามวัน
ในส่วนของมื้อกลางวัน มีอาหารจานเดียวง่ายๆ ให้เลือกทาน เช่น ผัดไทยและผัดกระเพรา อาหารถูกปากและแลดูน่าทานทุกอย่างครับ
มื้อค่ำก็จะมีเมนูอาหารไทย ซึ่งจากที่ได้ลองทาน พ่อครัวที่นี่ทำอาหารอร่อยมาก โดยเฉพาะของหวานนี่หากเหลือท้องก็แนะนำให้ลองสั่งมาทานสักอย่างครับ ช่วงที่ไปเห็นทางโรงแรมบอกว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมนูใหม่เช่นกัน ดังนั้นบางอย่างที่ทานวันนี้อาจจะไม่มีในเมนูแล้วครับ
บรรยากาศห้องอาหารมื้อคำ่อาจดูเงียบเหงาบ้าง เพราะบางทีแขกชอบหนีไปทานตามร้านข้างทางด้านนอก หรือปกติแล้วแขกก็นิยมเลือกไปทานห้องอาหารหน้าหาดเสียมากกว่า เนื่องจากอยู่ติดทะเลและบรรยากาศดีกว่ามากๆ และช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีบุฟเฟ่ต์ให้บริการหลากหลายเปลี่ยนไปตามแต่ละวัน
ถัดมาเป็น “Pool Bar” ให้บริการเครื่องดื่มริมสระน้ำ แขกที่มาใช้บริการสามารถนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ จากในสระน้ำได้เลย ซึ่งจะมีเก้าอี้อยู่ในน้ำติดบาร์ หรือนั่งชิวริมสระหรือนอนเตียงผ้าใบอาบแดดได้เช่นกัน ห้ามพลาดช่วงเวลา “Happy Hour” เมื่อสั่งเครื่องดื่มได้แถมฟรีเมนูชนิดเดียวกันอีก 1 แก้ว — ช่วงเวลา 16.00 น. ถึง 17.00 น. เท่านั้น
สระว่ายน้ำก็ยกเครื่องใหม่หมดเช่นกัน ทำให้ดูโมเดิร์นกว่าของเดิม สระว่ายน้ำมีแยกส่วนทั้งสำหรับเด็กจิ๋วที่ยังว่ายน้ำไม่เป็นซึ่งตื้นมาก และก็เด็กที่เริ่มโตบ้างจะอยู่ติดกับโซนปกติ ทริปนี้ช่วงกลางวันฝนตกและฟ้าก็เน่ามาก มีบรรยากาศสระว่ายน้ำแค่ตอนกลางคืนมาฝากกัน
ปิดท้ายกันด้วย “Sassi’s Beach Club” ห้องอาหารริมหาดบางเนียง ที่รื้อของเก่าทิ้งแล้วทำใหม่หมด เน้นเปิดโล่งเห็นวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ มีห้องแอร์เล็กๆ ให้บริการด้วย เปิดตั้งแต่ช่วงสายถึงเที่ยงคืน แขกนิยมมารับประทานอาหารกลางวันและเย็นที่ห้องนี้ เนื่องจากบรรยากาศดี เหมาะสำหรับนั่งชมพระอาทิตย์ตกและจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ไปพร้อมกัน
“Sassi’s Beach Club”
เป็นห้องอาหารและบาร์ ให้บริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติ ห้องอาหารอยู่บริเวณริมสระว่ายน้ำหน้าหาดบางเนียง
ช่วงเวลาให้บริการ : เวลา 11.00 น. ถึง 24.00 น. — เปิดให้บริการทุกวัน
สำหรับแขกที่ต้องการออกกำลังกาย ทางโรงแรมมี “Fitness Centre” พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายให้อย่างครบครัน เปิดให้บริการตลอดทั้งวันเช่นกันครับ
“รามาดา รีสอร์ท เขาหลัก” เป็นโรงแรมสำหรับการพักผ่อนสไตล์ครอบครัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน หรือเป็นจุดหมายสำหรับคู่รักฮันนีมูนก็ได้เช่นกัน ห้องพักอยู่สบายและปรับปรุงรีโนเวทใหม่ นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับแขกที่ต้องการไปออกเรือเที่ยวทะเล เนื่องจากมีท่าเรืออยู่บริเวณนี้ โดยเฉพาะการเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลันและฝั่งทะเลอันดามัน รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดพังงา หากพักที่ภูเก็ตต้องใช้เวลาเดินทางไกลพอสมควร บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบและไม่พลุกพล่านอีกด้วย
“รามาดา เขาหลัก รีสอร์ท”
Website : http://www.ramadakhaolak.com
Facebook : http://www.facebook.com/ramadakhaolak
ทริปนี้เดินทางกับ “สายการบินแอร์เอเชีย” อีกครั้ง ชอบเที่ยวบินที่สะดวกบินตรงถึงเชียงใหม่ ให้บริการถึง “3 เที่ยวบินต่อวัน” และเป็นเพียงสายการบินต้นทุนต่ำหนึ่งเดียวที่ให้บริการเส้นทางนี้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เท่านั้น
เที่ยวบินขาไป “เชียงใหม่ – ภูเก็ต”
FD 3160 : CNX-HKT / 0605-0810 — Duration : 2h 5m
FD 3162 : CNX-HKT / 1245-1450 — Duration : 2h 5m
FD 3168 : CNX-HKT / 2145-2350 — Duration : 2h 5mเที่ยวบินขากลับ “ภูเก็ต – เชียงใหม่”
FD 3159 : HKT-CNX / 0840-1040 — Duration : 2h 5m
FD 3161 : HKT-CNX / 1030-1215 — Duration : 2h 5m
FD 3167 : HKT-CNX / 1920-2115 — Duration : 2h 5m(ข้อมูลอัพเดทเมื่อ เดือนพฤศจิกายน 2562)
การเดินทางที่บางครั้งคาบเกี่ยวกับมื้ออาหาร ส่วนตัวมักจะชอบสั่งอาหารทานบนเครื่อง โดยเฉพาะกับเที่ยวบินข้ามภาคที่ใช้เวลานาน (เส้นทางนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง) แทนที่จะต้องเร่งรีบหาร้านทานที่สนามบิน นั่งทานบนเครื่องสะดวกกว่ามาก แถมราคาอาหารหากเทียบไปแล้วก็ไม่ต่างจากร้านอาหารที่สนามบิน ว่าไปแล้วยังถูกกว่าด้วย แนะนำว่าให้สั่งล่วงหน้าผ่านออนไลน์ จะได้เมนูอาหารให้เลือกหลากหลายถูกปากในราคาที่ถูกใจเช่นกัน บางครั้งหากไปรอสั่งบนเครื่องอาจไม่การันตีว่ามีเมนูที่อยากทานเหลือพอเสิร์ฟ
สั่งอาหารล่วงหน้าบนเที่ยวบิน :
http://www.airasia.com/my/en/inflight-comforts/hot-meals.page
นอกจากนี้ ทางสายการบินยังมีเมนูอาหารพิเศษสำหรับเที่ยวบินช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีในช่วงนี้ ซึ่งให้บริการตั้งแต่ “1 ตุลาคม 2561” ไปจนถึงสิ้นปีจะเป็น “เย็นตาโฟหม้อไฟผัดแห้ง (Stir Fried Rice Vermicelli with Yentafo Sauce)” ถือว่าน่าลองสำหรับกรณีอยากลองเปลี่ยนจากเมนูประจำ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูของหวานสุดพิเศษจากร้านขนมหวานชื่อดังของเมืองไทยอย่าง “After You” ที่ทำเมนูพิเศษมาเสิร์ฟอีกครั้ง ซึ่งมีให้ทานเฉพาะบนเที่ยวบินของแอร์เอเชียเท่านั้น นั่นก็คือ “อาฟเตอร์ยูแพนเค้กซูเฟล่ (After You Souffle Pancake)” ส่วนเครื่องดื่มก็จะเป็น “น้ำลิ้นจี่บลอสซั่ม (Lychee Blossom)”
ข้อมูลเพิ่มเติม (เมนูอาหาร) :
http://www.airasia.com/online-read/inflight-menu/fd-flight.pdf
ขอขอบพระคุณ “สายการบินแอร์เอเชีย” ที่อำนวยความสะดวกการเดินทางบินตรงจากเชียงใหม่สู่ภูเก็ต และที่ขาดไม่ได้สำหรับ “รามาดา เขาหลัก รีสอร์ท” สำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองเช่นเคย ทำให้ทริปพักผ่อนกับครอบครัวในครั้งนี้ รู้สึกประทับใจที่สุดเป็นเหมือนคนพิเศษ หากมีโอกาสคงกลับมาเยือนอีกแน่นอนครับ
“NOW SHOWING”
OAT EN ROUTE 