พาครอบครัวไปพักร้อน
— “ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต” —
ปิดเทอมทีไรต้องคอยนึกแผนพาลูกและครอบครัวเที่ยวทุกที สมาชิกยังไม่เบื่อทะเลภูเก็ตแม้ว่าพึ่งมาด้วยกันช่วงกลางปีรอบนึงแล้วก็ตาม ทริปนี้ก็เลยกลับมาอีกครั้ง โดยไปพักกันที่ “ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต (Dusit Thani Laguna Phuket)” โรงแรมแบรนด์ดังที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก พึ่งจะปรับปรุงห้องพักโฉมใหม่เสร็จเมื่อไม่นานนี้เอง การเดินทางครั้งนี้ตั้งใจเลือกที่พักซึ่งเหมาะกับการไปเที่ยวกับครอบครัว เน้นความอยู่สบายและมีกิจกรรมให้ทำระหว่างพักผ่อนครับ
ก่อนอื่นขอรบกวนกดติดตามและทักทายกันทาง Facebook กันก่อนนะครับ จะได้ไม่พลาดติดตามข่าวสารกันในตอนต่อไป
Facebook. : http://www.facebook.com/oatenroute
Instagram : http://www.instagram.com/oatenroute
ทริปนี้จากเชียงใหม่ สายการบิน “แอร์เอเชีย” มีไฟล์ทบินตรงไปภูเก็ตไม่ต้องเสียเวลาต่อเครื่องที่กรุงเทพ ซึ่งให้บริการ “3 เที่ยว” ต่อวัน มีเวลาให้เลือกตามสะดวก ส่วนตัวนิยมบินเที่ยวบินประมาณตอนเที่ยง จะได้ถึงที่พักไม่สายเกินไป ส่วนขากลับมักจะเลือกเที่ยวบินช่วงบ่าย หลังเช็คเอาท์จากโรงแรมก็ไปขึ้นเครื่องพอดี จะได้ไม่กลับถึงบ้านค่ำจนเกินไป สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost Airlines) มีเพียงแอร์เอเชียเจ้าเดียวเท่านั้นที่เปิดบินตรงเส้นทาง “เชียงใหม่ (CNX)” ไปยัง “ภูเก็ต (HKT)” โดยไม่ต้องแวะต่อเครื่องที่กรุงเทพ
เที่ยวบินขาไป “เชียงใหม่ – ภูเก็ต”
FD 3160 : CNX-HKT / 0605-0810 — Duration : 2h 5m
FD 3162 : CNX-HKT / 1245-1450 — Duration : 2h 5m
FD 3168 : CNX-HKT / 2145-2350 — Duration : 2h 5mเที่ยวบินขากลับ “ภูเก็ต – เชียงใหม่”
FD 3159 : HKT-CNX / 0840-1040 — Duration : 2h 5m
FD 3161 : HKT-CNX / 1030-1215 — Duration : 2h 5m
FD 3167 : HKT-CNX / 1920-2115 — Duration : 2h 5m(ข้อมูลอัพเดทเมื่อ เดือนพฤศจิกายน 2562)
รอบนี้เลือกบินตรงช่วงมื้อเที่ยง จึงเลือกทานอาหารบนเครื่องแทนที่จะแวะทานที่สนามบิน ซึ่งราคาไม่ต่างกันมากนัก ถือว่าสะดวกกว่าไม่ต้องเร่งรีบหาของกินก่อนขึ้นเครื่อง แนะนำว่าให้สั่งจากหน้าเว็บก่อนบินดีที่สุด จะได้เมนูอาหารให้เลือกหลากหลายถูกปากในราคาที่ถูกใจกว่าด้วยครับ
สั่งอาหารล่วงหน้าบนเที่ยวบิน :
http://www.airasia.com/my/en/inflight-comforts/hot-meals.page

“ดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต” เป็นโรงแรมที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลายาวนาน ในปีนี้ถือเป็นโอกาสดีในการฉลอง “ครบรอบ 31 ปี” เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง
โรงแรมตั้งอยู่บริเวณใจกลางของ “ลากูน่าภูเก็ต (Laguna Phuket)” แหล่งรวมรีสอร์ทชั้นน้ำมากมายของฝั่งภูเก็ต จากสนามบินใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อมาถึงระหว่างที่รอเช็คอิน ทางโรงแรมก็จะต้อนรับด้วยน้ำฝรั่งพร้อมกับผ้าเย็นหอมชื่นใจ

ห้องพักเป็นแบบ “ดุสิตคลับ (Dusit Club)” ซึ่งอยู่บริเวณด้านล่างของอาคารหลัก จากห้องพักสามารถมองเห็นวิวทะเล มีระเบียงเล็กๆ เหมาะสำหรับพักผ่อน
สิทธิ์ประโยชน์สำหรับครอบครัว :
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี พักในห้องเดียวกับผู้ปกครองได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- เตียงคอกสำหรับเด็กเล็กหรือเตียงเสริมบริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับเด็กต่ำกว่า 12 ปี
- อาหารแบบบุฟเฟ่ต์ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี — เมื่อรับประทานกับผู้ปกครอง
- ส่วนลด 50% สำหรับบุฟเฟ่ต์สำหรับเด็กอายุ 4-12 ปี
สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานภายในห้องพัก :
- ระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
- ระเบียงห้องพักส่วนตัว
- น้ำดื่มฟรีภายในห้องพัก
- มินิบาร์ พร้อมเครื่องชงชาและกาแฟ
- โต๊ะทำงานขนาดใหญ่
- โทรทัศน์ระบบสัญญาณดาวเทียม
- สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องน้ำครบชุด — ได้แก่ เครื่องเป่าผม เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าเดินภายในห้อง และเครื่องอาบน้ำต่างๆ
- ตู้นิรภัยภายในห้องพัก
- แผงควบคุมระบบไฟข้างเตียง พร้อมไฟอ่านหนังสือ
- เมนูหมอน (ตามความต้องการ)
- ห้องพักที่เชื่อมต่อถึงกันได้ (ตามคำขอพิเศษ)
“ห้องดุสิตคลับ” จะมีขนาดประมาณ 35 ตารางเมตร ช่วงที่ไปห้องพักประเภทนี้ได้มีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่การตกแต่งภายในทั้งส่วนห้องนอนและห้องน้ำ โทนสีสว่างน่าพักมากยิ่งขึ้น ทำให้รู้สึกไม่ต่างจากนอนในห้องโรงแรมที่พึ่งสร้างเสร็จไม่นาน รวมไปถึงการออกแบบให้ดูเรียบง่ายหรูหราและทันสมัยขึ้นจากแบบเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยโรงแรมเปิด ซึ่งได้เริ่มทะยอยปรับปรุงห้องพักใหม่หมดตั้งแต่ปลายปีทีก่อน พึ่งแล้วเสร็จได้เพียงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้เอง
Dusit Club Privileges — สิทธิ์พิเศษสำหรับ “ดุสิตคลับ”
แขกที่มาพักทุกท่านจะได้รับสิทธิ์ประโยชน์จากดุสิตคลับตลอดการเข้าพัก ดังนี้
- อาหารเช้าบริการตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 11.00 น.
- น้ำชายามบ่าย ตั้งแต่ 15.00 น. ถึง 16.00 น.
- ค็อกเทลมื้อเย็น ตั้งแต่ 18.00 น. ถึง 19.00 น.
- โทรศัพท์พื้นฐานภายในประเทศ
- ศูนย์บริการทางธุรกิจและจุดให้บริการคอมพิวเตอร์
- ชุดเครื่องนอนผ้าทอหรู เนื้อนุ่มละเอียดและสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำ
- ผลไม้สดให้บริการในห้องพัก ณ วันที่เข้าพัก
- หนังสือพิมพ์รายวันฉบับภายในประเทศ
- เช็คเอาท์ล่าช้าได้ถึง 16.00 น. (ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพักว่าง)
ห้องอาหารแรก “ลา ทราทโทเรีย (La Trattoria)” เป็นห้องอาหารที่พึ่งปรับปรุงใหม่เสร็จไปได้ไม่นานเช่นเดียวกับห้องพักของโรงแรม มีการตกแต่งภายในให้ดูทันสมัยกว่าของเดิม โดยหลักจะเปิดเป็นห้องอาหารพิเศษสำหรับ “ห้องดุสิตคลับ” โดยเป็นที่ให้บริการ “น้ำชายามบ่าย (Daily Afternoon Tea)” ซึ่งเป็นสิทธิ์พิเศษที่ห้ามพลาดเด็ดขาด ขนมอร่อยทานกับเครื่องดื่มชาหรือกาแฟอิ่มจนถึงมื้อเย็นทีเดียว
ห้องอาหาร “ลา ทราทโทเรีย” ในช่วงมื้ออาหารเช้า จะเปิดให้บริการพิเศษเฉพาะแขกจาก “ห้องดุสิตคลับ” — แขกห้องพักธรรมดาสามารถไปใช้บริการที่ห้องอาหารหลัก “ลากูน่าคาเฟ่” — เป็นการอำนวยความสะดวก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วห้องอาหารนี้จะสะดวกสบายกว่า ไม่แออัดเท่าห้องอาหารหลักส่วนกลาง ซึ่งเปิดให้บริการสำหรับแขกที่มาพักจากทั้งโรงแรม ชนิดของอาหารอาจมีไม่หลากหลายเท่ากับห้องอาหารหลัก แต่รวมแล้วถึอว่าไม่แตกต่างกันนัก
สำหรับอาหารมื้อเย็น เริ่มต้นกันด้วยขนมปังมาทานเล่นระหว่างรอ ที่เหลือก็สั่งซุป ลาซานญ่า ปิดท้ายด้วยพิซซ่า รับประกันความอร่อยทุกอย่างที่สั่งมาทาน โดยเฉพาะ “ซุปและลาซานญ่า” แนะนำว่าต้องลองชิมดูครับ
“รู้หมือไร่”
นิตยสาร “Thailand Tatler Best Restaurants” นิตยสารไลฟ์สไตล์ชั้นนำของประเทศไทย ได้จัดอันดับ ร้านอาหารอิตาเลียน “ลา ทราทโทเรีย” ให้เป็น “หนึ่งในร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทยของปี 2016”
ห้องอาหาร “ลา ทราทโทเรีย”
เป็นห้องอาหารอิตาเลียนชั้นนำเพียงแห่งเดียวใน “ลากูน่า ภูเก็ต” ให้บริการเมนูหลากหลายและไวน์อิตาเลียนชั้นเลิศ บรรยากาศร่วมสมัย พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกดินจากห้องอาหาร
อาหารเช้า : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 น. ถึง 11.00 น. — เฉพาะ “ห้องดุสิตคลับ”
น้ำชายามบ่าย : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 15.00 น. ถึง 16.00 น. — เฉพาะ “ห้องดุสิตคลับ”
อาหารเย็น : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น.
ห้องอาหารถัดมา “ลากูน่าคาเฟ่ (Laguna Café)” ห้องอาหารหลักอยู่บริเวณชั้นล่างของห้องโถงโรงแรม การออกแบบภายในได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาคารสไตล์ “จีน-โปรตุเกส (Chino-Portuguese Architecture)” สถาปัตยกรรมของเมืองเก่าภูเก็ต ให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์สำหรับแขกที่มาพัก (รวมถึงห้องพัก “ดุสิตคลับ”) มีอาหารตามสั่งตลอดทั้งวัน ได้แก่ อาหารไทย จีน และโปรตุเกส
และก็ห้องอาหารไทย “เรือนไทย” เป็นอีกร้านนี่อยากนำเสนอเช่นกันครับ ปกติเวลาทานอาหารในเครือโรงแรมดุสิตนี่ค่อนข้างมีชื่อกับเมนูอาหารไทย ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะมื้อเที่ยงและเย็น ช่วงที่ไปมีแบบอาหารบุฟเฟ่ต์ด้วย แต่ทางโรงแรมแนะนำว่าต้องลองสั่งแบบเมนูดีกว่าจะได้ลองอาหารจานเด็ด
สำหรับมื้อค่ำวันนี้ ทางโรงแรมแนะนำเมนู “ปูนิ่มผัดพริกแกง” ซึ่งไม่ผิดหวังเลย แต่เมนูโปรดของชาวคณะค่ำนี้คงหนีไม่พ้นเมนู “กุ้งราดซอสมะขาม” ซึ่งอร่อยจริงไม่เกรงใจพุงน้อยๆ น้องจุ้งตัวใหญ่และหวานมาก จนลูกชายตัวแสบเหมาไปเยอะกว่าทุกคน ในส่วนของต้มข่าไก่ก็รสชาติดีไม่แพ้กัน ทานเสร็จพนักงานเสิร์ฟก็ชวนทานของหวานปิดท้าย แต่มื้อนี้ถึงแม้อยากทานต่อแค่ไหนก็ไม่ไหวแล้วครับ เสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้ลองทาน สรุปมื้อนี้อร่อยทุกอย่าง ไม่ผิดหวังเลยกับห้องอาหารไทยของ “ดุสิตธานี” กรณีที่คนไทยไปทาน แนะนำว่าให้แจ้งขอรสชาติเผ็ดร้อนแบบคนไทย เนื่องจากร้านอาหารไทยตามโรงแรม บางทีจะลดดีกรีความเผ็ดสำหรับแขกชาวต่างชาติ
ห้องอาหาร “เรือนไทย (Ruen Thai)”
เสิร์ฟอาหารไทยสไตล์ชาววัง ห้องอาหารเป็นเรือนไม้สักทรงไทย ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ และภายในประดับตกแต่งด้วยบรรยากาศความเป็นไทย อาหารไทยจะปรุงอย่างปราณีตจากต้นตำรับที่ตกทอดมาหลายรุ่น
อาหารเที่ยง : เปิดให้บริการ เวลา 12.00 น. ถึง 14.30 น. — เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
อาหารเย็น : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น.
นอกจากห้องอาหาร ยังได้ลองใช้บริการ “ฮอไรซันเลาจน์ (Horizon Lounge)” ซึ่งเป็นบาร์อยู่บริเวณโถงต้อนรับกลางของอาคารหลัก เน้นเครื่องดื่มและของทานเล่น สามารถชมพระอาทิตย์ยามเย็นได้จากบาร์ด้านนอกระเบียง ตอนกลางคืนจะมีดนตรีเล่นให้ฟังด้วย
“ฮอไรซันเลาจน์ (Horizon Lounge)”
บาร์บริเวณโถงกลาง (Lobby) ของโรงแรม เป็นห้องเปิดโล่งเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์จากทะเล ยื่นออกไปนอกระเบียงสำหรับแขกที่ชอบแดด เปิดให้บริการทั้งวัน เหมาะสำหรับจิบกาแฟยามเช้า ชายามบ่าย หรือเครื่องดื่มเย็นๆ สดชื่นช่วงค่ำ มีเพลงจากวงดนตรีประจำของโรงแรมตลอดทั้งคืน
ช่วงเวลาให้บริการ : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 น. ถึง 00.00 น. — วงดนตรีแสดงสดทุกวัน (ยกเว้นวันอาทิตย์) ตั้งแต่ 19.30 น. ถึง เที่ยงคืน
ปิดท้ายกันด้วยห้องอาหาร “คาชัวรินา บีช (Casuarina Beach Restaurant)” เป็นห้องอาหารริมชายหาดที่บรรยากาศดีมาก เป็นที่นิยมมาทานมื้อค่ำพร้อมชมดวงอาทิตย์ตกของฝั่งทะเลอันดามัน ที่นี่เน้นเมนูอาหารนานาชาติ รวมไปถึงพวกบาร์บีคิว เสียดายไม่มีโอกาสมาทานบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ซึ่งตามปกติ จัดในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
“ห้องอาหาร คาชัวรินา บีช (Casuarina Beach Restaurant)”
ห้องอาหารริมหาด ดื่มด่ำกับวิวของทะเลอันดามัน และพระอาทิตย์ตกของภูเก็ต ให้บริการอาหารทั้งจานพิเศษจากนานาชาติ ซึ่งปรุงด้วยวัตถุดิบชั้นดีของท้องถิ่น
อาหารกลางวัน : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 น. ถึง 18.00 น. — ตามฤดูกาล
อาหารเย็น : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น.
เวลามาพักผ่อนกับครอบครัว ส่วนที่ประทับใจสำหรับเด็กคงหนีไม่พ้นสระว่ายน้ำ ซึ่งทางโรงแรมพึ่งปรับปรุงเสร็จไม่นานเช่นกัน มีทั้งสะพานลื่นและก็โซนสำหรับเด็ก
อำลากันด้วยบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกจากโรงแรมในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ ที่นี่มีหาดส่วนตัว แต่ช่วงที่ไปเป็นธงเหลืองจึงไม่ได้ลงไปเล่นบริเวณชายหาด ตอนบ่ายฝนตกแดดออกทั้งสองวัน ช่วงเย็นยังถือว่าโชคดี พอเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนสีระหว่างดวงอาทิตย์ตกบ้างครับ
สรุปภาพรวมของการมาเยือน “โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต” เป็นครั้งแรก รู้สึกประทับใจกับบริการของทางโรงแรม สมกับที่เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมานาน ห้องพักที่สะดวกสบายมาก โดยเฉพาะในส่วนของห้องพักที่พึ่งมีการปรับปรุงและตกแต่งใหม่ อาหารอร่อยทุกมื้อ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนกับครอบครัวเป็นอย่างมาก มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่พึ่งปรับปรุงเปลี่ยนตั้งแต่กระเบื้องสระว่ายน้ำ รวมไปถึงสไลเดอร์ น้ำพุ และของเล่นสำหรับเด็กอีกด้วย แต่หากเป็นจุดหมายสำหรับการมาฮันนีมูนหรือเที่ยวกับเพื่อนก็ได้เช่นกัน ตัวโรงแรมอยู่ติดหาดทำให้สามารถเดินลงไปเล่นน้ำทะเลหรือชมพระอาทิตย์ตกดินได้เพียงไม่กี่ก้าวจากห้องพัก
“โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต”
Website : http://www.dusit.com/dusitthani/lagunaphuket/
Facebook : http://www.facebook.com/dusitthaniphuket/
ขอแสดงความยินดี “โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต” สำหรับรางวัลโรงแรมติดหน้าหาดที่ดีที่สุดในปีล่าสุด “The Best Beachfront Resort 2018” จาก “World Luxury Hotel Awards” ด้วยครับ
ขอขอบพระคุณ “สายการบินแอร์เอเชีย” ที่อำนวยความสะดวกการเดินทางบินตรงจากเชียงใหม่สู่ภูเก็ต และที่ขาดไม่ได้สำหรับ “โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต” สำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง ทำให้ทริปพักผ่อนกับครอบครัวในครั้งนี้ รู้สึกประทับใจที่สุดเป็นเหมือนคนพิเศษ หากมีโอกาสคงกลับมาเยือนอีกแน่นอนครับ
ก่อนเดินทางกลับเชียงใหม่ ยังเหลือโปรแกรมเที่ยวกันต่อครับ ตอนหน้าจะพาไปพักกันที่ “Ramada Khao Lak Resort” กันต่อ สามารถติดตามอ่านกันได้เลยครับ
(ตอนต่อไป)
โรงแรมริมหาดสำหรับครอบครัว
— “รามาดา เขาหลัก รีสอร์ท”https://oatenroute.com/2018/12/07/0105030/
“NOW SHOWING”