เที่ยวเชียงรายชวนไปต่อนยอนตะลอนริมโขง
— “บ้านแซวการ์เด้น แอนด์ รีสอร์ท” —
ทริปแรกของปีจะพาไปค้างคืนรีสอร์ทเปิดใหม่ริมแม่น้ำโขงกัน ส่งท้ายก่อนหมดฤดูหนาวย่างเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างแท้ทรู เป็นการเดินทางไปเที่ยวเชียงรายกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้ไปมาหลายปี โดยจะเน้นเที่ยวกันแบบไม่เร่งรีบ หลีกหนีความวุ่นวายไปพักผ่อนที่อำเภอเชียงแสนอันแสนสงบ
(พื้นที่โฆษณา) หากไม่ได้เข้ามาเว็บนี้เป็นประจำ สามารถกดติดตามกันได้เพิ่มเติมทางออนไลน์ข่องทางอื่น เผื่อมีเรื่องราวอัพเดทจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกในตอนต่อไปนะครับ
Facebook. : http://www.facebook.com/oatenroute
Instagram : http://www.instagram.com/oatenroute
สำหรับ “บ้านแซวการ์เด้น แอนด์ รีสอร์ท” ที่พักสำหรับทริปนี้ เป็นรีสอร์ทพึ่งเปิดมาไม่นานนี้เอง ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเลยตัวเมืองเชียงแสนไม่ไกลนัก จากตัวเมืองเชียงรายใช้เวลาขับรถไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง


เมื่อไปถึงตอนเช็คอินทางรีสอร์ทจะต้อนรับด้วยน้ำมะนาวหอมหวานเป็น “Welcome Drink” อันนี้คาดว่าน่าจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และมีผลไว้ตามฤดูกาลวางไว้ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง เคยเห็นคนมาพักก่อนหน้าเมื่อหลายเดือนก่อนจะเป็นพุทราสดจากสวน ระหว่างที่ผมไปเสียดายพ้นฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้ว ไมอย่างนั้นคงได้ไปเดินเก็บเองจากต้นบ้างแน่ๆ แต่ช่วงนี้ก็มีผลไม้เมืองหนาวอย่าง “สตรอว์เบอร์รี” ซึ่งทางรีสอร์ทปลูกเองและปลอดสารเคมี

ส่วนของรีสอร์ทจะมีอาคารห้องพักอยู่ 4 หลัง ตั้งอยู่บนเนินหันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ทำให้สามารถมองเห็นวิวฝั่งลาวเหมือนกันหมดจากระเบียง ช่วงที่ผมไปพักเดือนมีนาคม (Low Season) ห้องพักราคาเริ่มต้นไม่แพงนัก แนะนำให้สอบถามผ่านทางรีสอร์ทเพื่ออัพเดทราคาหรือมีโปรพิเศษสำหรับคนไทย
รายละเอียดเพิ่มเติม
Website : http://www.bansaeogarden.com/th/
Facebook : http://www.facebook.com/bansaeogardenresort/Tel. : (053) 160731-5

ห้องพักสำหรับค่ำคืนนี้เป็นแบบ “แม่โขงสวีท” ขนาดกว้างมาก — 73 ตารางเมตร — มีระเบียงในตัว เป็นแบบเตียงเดี่ยว หากมาเป็นครอบครัวสามารถขอเตียงเสริมได้ (มีค่าบริการเพิ่มเติม) ภายในมีห้องนั่งเล่นและโต๊ะทำงานอยู่บริเวณประตูทางเข้า

ในส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านหลังหัวเตียงแต่ไม่มีประตูกั้น หากไม่ได้มาเป็นครอบครัวคงมีเขินบ้างครับ เหมาะมากสำหรับคู่รัก ห้องอาบน้ำจัดมาเต็มที่ให้เลือกตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นอ่างอาบน้ำสำหรับคนชอบแช่ หรือว่าฝักบัวก็มีหมดทั้งกลางแจ้งและภายในห้อง


พวกเครื่องใช้ Amenity Kits ทางรีสอร์ทมีให้ครบครันเหมือนโรงแรมห้าดาว ทั้งแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู ครีมนวด และโลชั่นหลังอาบน้ำ หากใครลืมเอาอะไรมาก็ไม่ต้องกังวล


ผลไม้ในห้องพักช่วงนี้จะเป็นกล้วยครับ เท่าที่ทราบมาก็จะเป็นผลไม้ไร้สารพิษที่ปลูกภายในบริเวณรีสอร์ทและเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล นอกจากนี้ ก่อนนอนประมาณสองทุ่ม แม่บ้านจะมาเคาะประตู พร้อมกับเสริ์ฟน้ำเต้าหูรอบดึกให้แขกที่มาพัก อันนี้ชอบมาก เป็นความประทับใจในรายละเอียดเล็กๆ ที่ทางรีสอร์ทฝากไว้ก่อนนอน




ห้องพักโรงแรมจำแนกเป็น 3 ประเภท
Standard Room 19 ห้อง
Deluxe Room 8 ห้อง
Suites 4 ห้อง(แต่ว่าจะแบ่งย่อยตามการตกแต่งและมีชื่อเรียกทั้งหมด 6 แบบ รายละเอียดตามเว็บไซต์)
ฝั่งตรงข้ามของรีสอร์ทเป็นประเทศลาวเพื่อนบ้านของเราเอง มีเพียงแม่น้ำโขงเป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างสองประเทศ จากจุดที่ตั้งของรีสอร์ทสามารถชมพระอาทิตย์ตกริมฝั่งโขงได้งดงามทุกฤดู
บรรยากาศช่วงเย็นเหมาะสำหรับการลงมาเดินเล่นรอชมแสงสุดท้ายของวัน ชมพระอาทิตย์ตกด้านฝั่งตรงข้ามบริเวณริมชายแดนที่ติดกับประเทศลาว ช่วงฤดูหนาวมองออกไปจะเห็นแนวทิวต้นไม้ที่ผลัดใบเหลือแต่กิ่งก้านแลดูสวยแปลกตาทีเดียว ด้วยความสงสัยจึงสอบถามทางพนักงานโรงแรม ได้ความว่าเป็นต้นงิ้วจริงตามที่แอบคิดไว้ตอนแรก ซึ่งเป็นบริเวณสวนที่พ่อค้าชาวจีนมาเช่าเพื่อทำสวนกล้วย
“รู้หมือไร่?”
ต้นงิ้วที่เห็นนอกจากชื่อเสียงเรื่องลำต้นอันมีหนามแหลมคม ในส่วนของดอกงิ้วที่เบ่งบานเป็นสีแดงสดในช่วงฤดูหนาว ชาวบ้านจะคอยเก็บดอกงิ้วที่ร่วงโรยลงมาบนพื้นแล้วนำไปตากจนแห้ง เพื่อใช้เป็นส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้ของอาหารของชาวเหนือจานเด็ดอย่าง “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” นั่นเอง โดยจะนำส่วนที่เป็นเกสรมาตากแห้งจนสนิทเพื่อให้เก็บรักษาไว้ได้นาน เวลาจะนำมาปรุงอาหารก็แช่น้ำทิ้งไว้หนึ่งคืน
อันที่จริงแล้ว เมื่อปางก่อนเดิมทีฝั่งไทยก็เคยมีต้นงิ้วเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากเป็นไม้เนื้ออ่อน คนบ้านเราจึงตัดไปใช้ทำก้านไม้ขีดไฟ ไม้จิ้มฟัน และอื่นๆ จนปัจจุบันหาได้ยากแล้ว ดังนั้นกว่าจะมาเป็นอาหารจานโปรดอย่างขนมจีนน้ำเงี้ยว บางส่วนต้องเดินทางไกลนำเข้าเกสรดอกงิ้วแห้งมาจากฝั่งลาวซึ่งเป็นตลาดใหญ่นี่เอง

อาหารค่ำเราจะทานกันที่ห้องอาหาร “Mekong Terrace” วันนี้ภูมิใจนำเสนอชุดขันโตกเสิร์ฟสไตล์ล้านนา มีกับข้าวหลายอย่างเสิร์ฟมาพร้อมกัน หากสั่งมาเป็นเซ็ตก็ทานสองคนอิ่มกำลังพอดี ชอบสุดเห็นจะเป็นน้ำพริกหนุ่มและน้ำพริกอ่อง รสชาติไม่เผ็ดมากทานกับผักสดหรือไส้อั่วอร่อยจริง





บรรยากาศริมน้ำยามหัวค่ำจะค่อนข้างเงียบสงบ จะเห็นเพียงแสงไฟจากฝั่งไทยเป็นระยะตลอดแนวคุ้งแม่น้ำ ด้านฝั่งลาวจะเงียบสงบกว่ามาก
ช่วงเช้าที่โรงแรมค่อนข้างเย็นทีเดียว ในเดือนมีนาคมแม้ว่าอากาศในเมืองเร่ิมอบอุ่นจนร้อน แต่ยามเช้าที่บ้านแซวช่วงที่ไปพักนี้อุณหภูมิเพียง 15 องศา เท่านั้น ตอนตื่นมาถ่ายรูปถึงกับยืนสั่นเหมือนกัน พออาทิตย์ขึ้นก็จะมีหมอกจางๆ พอให้เห็นบ้าง ไม่น่าเชื่อว่าก่อนวันเดินทางที่เชียงใหม่อากาศร้อนต้องเปิดแอร์นอนทุกคืน

ภายในบริเวณรีสอร์ทจะมีสวนผลไม้เล็กๆ ให้ชม ช่วงเวลาที่ไปพักจะเห็นแปลงสตรอว์เบอร์รีเล็กๆ ดอกไม้ และมะม่วงเริ่มออกผลพอดี




อาหารเช้านี้ทานกันจนอิ่มเช่นกัน ช่วงนี้แขกเข้าพักน้อยทางรีสอร์ทจะจัดเป็นอาหารชุด จานหลักเป็นตระกูลไข่หลากหลายประเภท (ตั้งแต่ไข่ดาวยันไข่คน) ข้าวผัด หรือข้าวต้ม มีสลัด ขนมปังปิ้ง น้ำผลไม้ เยอะจนทานแทบไม่หมด หากเป็นช่วงที่แขกมาก (เข้าพักเกิน 20 ห้อง) จะจัดเตรียมเป็นบุฟเฟ่ต์

ช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนซึ่งย่างเข้าฤดูร้อนพอดี ไปเที่ยวดอยคงไม่สวยเท่าฤดูหนาว จึงเลือกปลายทางเป็นไร่ชาฉุยฟงและพระตำหนักดอยตุง ซึ่งหากออกจากเดินทางจากโรงแรมไม่สายนัก ก็จะสามารถวนเป็นวงกลมกลับมาทางสามเหลี่ยมทองคำและตัวเมืองเชียงแสนได้ทันช่วงเย็น สามารถจบทริปง่ายๆ เพียงหนึ่งวันพอดี
สำหรับตอนนี้จะเน้นกันเรื่องรีสอร์ทที่เราพักกัน ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวจะเอามาลงเพิ่มเติมตอนหน้าดีกว่า ก่อนชมฉบับเต็มขอเอาภาพบางส่วนมาให้ชมกันเบาๆ ไปก่อนครับ



(ตอนต่อไป)
2018 Summer Trip in “Chiang Rai”
https://oatenroute.com/2018/04/10/0105020/
การเดินทางจากกรุงเทพมีบินตรงหลายสายการบินให้เลือก จากนั้นจึงนั่งรถต่อไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปยังปลายทางบริเวณอำเภอเชียงแสน สำหรับผมขับรถตรงจากเชียงใหม่ก็ใช้เวลาเบ็ดเสร็จเกือบ 4 ชั่วโมง

ในที่สุดวันหยุดพักผ่อนทริปแรกสองคืนที่ “บ้านแซวการ์เด้น แอนด์ รีสอร์ท” ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นอีกทริปซึ่งกลับไปด้วยความประทับใจ จนรู้สึกว่าสองคืนนี่อาจสั้นไปสักเล็กน้อยสำหรับการหลบหนีความวุ่นวายมากพักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วยความลงตัวของบรรยากาศที่วิวงดงามและเงียบสงบ อากาศเย็นสบายสดชื่นจนแทบไม่อยากกลับ หากมีโอกาสคงจะกลับมาเยือนอีกครั้งตอนหน้าหนาวอย่างแน่นอนครับ
“สุดท้ายนี้ ขอบพระคุณทางรีสอร์ทที่ให้การต้อนรับอันอบอุ่นเป็นกันเอง รวมถึงให้โอกาสมาพักผ่อนริมน้ำโขงช่วงวันหยุดที่แสนประทับใจด้วยครับ”
- PHOTO GALLERY –
One thought on “Slow Life by Mekong River at “Bansaeo Garden and Resort””