3 ดอยบนเส้นทางสีชมพู
— ดอกนางพญาเสือโคร่ง “เชียงใหม่” —
ช่วงนี้ (โดยปกติประมาณสัปดาห์ที่สองของเดือนมกราคม) ได้เวลาดอกนางพญาเสือโคร่งบานพอดี ปลายปีก่อนเห็นสภาพอากาศปีนี้ก็แอบทำใจว่าคงไม่เห็นดอกไม้บานสวยอย่างแน่นอน ที่ไหนได้ แทนที่ใบจะแทงหรือดอกจะร่วง กลับกลายเป็นว่าดอกบานสีชมพูงดงามเต็มดอยแทบทุกดอย ถือว่าสวยสุดครั้งนึงในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ดังนั้นตอนนี้ใครสามารถลางานหรือหาโอกาสไปเที่ยวได้ก็ห้ามพลาดเด็ดขาด ได้ยินมาว่าหลังจากสัปดาห์ที่สามไปนี่จะเริ่มโรย และอย่างช้าสุดมีเวลาถึงไม่เกินสิ้นเดือนนี้เท่านั้น ถ้าไม่รีบไปคงต้องรอไปอีกถึงปีหน้าแน่นอน
ว่าแล้วก็ลองตามไปดูกันเลยว่ามีจุดไหนที่น่าสนใจแถวเชียงใหม่กันบ้าง ผมจึงไปขุดรูปเก่าๆ จากที่เคยถ่ายเก็บไว้มาหลายปีมารวบรวมไว้ เพื่อจะได้รีบตามรอยไปก่อนที่ดอกจะเริ่มโรยรา
(พื้นที่โฆษณา) หากไม่ได้เข้ามาเว็บนี้เป็นประจำ สามารถกดติดตามกันได้เพิ่มเติมทางออนไลน์ข่องทางอื่น เผื่อมีเรื่องราวอัพเดทจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกในตอนต่อไปนะครับ
Facebook. : http://www.facebook.com/oatenroute
Instagram : http://www.instagram.com/oatenroute
1. บ้านขุนช่างเคี่ยน
สถานที่ชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่อยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มากที่สุด เพียงขับรถขึ้นไปทางวัดพระธาตุดอยสุเทพขึ้นไปเรื่อย จนเลยพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์จะเป็นถนนเส้นเล็กๆ ขับไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่คดเคี้ยว รวมแล้วเบ็ดเสร็จหากรถไม่ติดก็ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง
ความงดงามของจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งจะอยู่ที่ถนนเส้นเล็กๆ ไปสู่หมู่บ้าน เป็นโค้งพับไปมามีดอกสีชมพูเป็นแนวตลอดข้างทาง อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังเนื่องจากเป็นสถานที่ยอดนิยมและอยู่ใกล้ตัวเมืองมาก ทำให้แออัดไปด้วยนักท่องเที่ยว หาที่จอดรถยากมาก และระหว่างทางไปหากเป็นช่วงสายรถจะติดเนื่องจากบางช่วงถนนแคบจนสวนกันแทบไม่ได้ ส่วนเส้นทางลงอีกด้านไปยังห้วยตึงเฒ่าสภาพไม่ค่อยดี ไม่แนะนำให้รถใหญ่สัญจร ยกเว้นบางปีที่มีการปรับปรุงสภาพพื้นผิวถนน จึงมีเพียงรถใหญ่ 4WD หรือรถมอไซค์ขาลุยที่ใช้หลีกหนีการจราจรที่แออัดผ่านทางนี้แทน
2. ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)
สถานที่ยอดนิยมสำหรับฤดูแห่งสีชมพูอีกหนึ่งแห่ง รู้จักและเรียกกันติดหูว่า “ขุนวาง” อยู่เส้นทางเดียวกับดอยอินทนนท์ ถึงแม้ว่าต้องเดินทางไกลกว่าอันแรก แต่ถือว่าคุ้มค่าที่สุด เนื่องจากตามเส้นทางและบริเวณนั้นมีจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งหลายแห่ง เช่น พระตำหนักดอยผาตั้ง และศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี รวมไปถึงสามารถเที่ยวอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้ในทริปเดียว
จุดขายของดอกนางพญาเสือโคร่งที่นี่ คือ อุโมงค์ต้นไม้ที่เป็นแนวตรงยาว เวลาถ่ายรูปออกมางดงามมาก ถึงแม้ว่าเส้นทางอาจไกลไปบ้าง หรือถนนบางช่วงเป็นหลุมเป็นบ่อหรือทางเบี่ยงเนื่องจากโดนน้ำป่าซัดไปบ้างในช่วงฤดูฝน (บางปี) แต่ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายมากนัก รถยนต์สามารถขับไปได้สบายหากใช้ความระมัดระวัง
3. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
สถานที่ปลายทางในฝันของเหล่านักล่าดอกนางพญาเสือโคร่ง หากเลือกเส้นทาง “บ้านอรุโณทัย” ระหว่างทางจะเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งเป็นระยะ ทำให้แทบอดใจไม่ไหวที่จะต้องจอดแวะอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงทัศนียภาพที่งดงาม ผ่านหมู่บ้านชาวเขา ยามเช้าจะมีไอหมอกให้เห็นอยู่เป็นประจำจึงเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวสายถ่ายรูป ส่วนบางคนมีเวลาจำกัดมักจะเลือกเส้นทาง “อำเภอไชยปราการ” ที่ถนนค่อนข้างชันและคดเคี้ยวในช่วงสุดท้ายแม้ว เนื่องจากระยะทางสั้นกว่าอันที่กล่าวมาตอนแรก
ที่สุดของปลายทางแห่งนี้อยู่ที่ หุบเขาจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูทั้งลูกในช่วงที่ดอกบานเต็มที่ รวมไปถึงสองข้างทางบางช่วงก็จะมีผลิบานให้เห็น รวมไปถึงอุโมงค์ต้นไม้ที่ผลิบานไปด้วยดอกสีชมพู แม้ว่าบางครั้งจะบานไม่พร้อมกันก็ตาม แต่ก็ทำให้ช่วงเวลาที่จะมาเจอดอกนางพญาเสือโคร่งในบางปีเริ่มทะยอยตั้งแต่ธันวาคมข้ามปีไปจนถึงมกราคมเลยทีเดียว (นานกว่าที่อื่น) นอกจากนี้ ภายในสถานีเกษตรหลวงจะมีต้นซากุระพันธุ์แท้บานเต็มไปหมดตลอดเส้นทางที่ขับรถผ่าน
ถึงแม้ว่าเส้นทางค่อนข้างไกล คดเคี้ยว สูงชัน และใช้เวลาขับรถนานพอสมควร แต่ด้วยบรรยากาศและความงดงามที่บอกต่อกันมา จึงไม่อาจทานแรงของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสัมผัสให้ได้สักครั้ง
มาถึงตรงนี้หากใครยังไม่ได้วางแผนไปชม ก็รีบตัดสินใจไปกันได้เลยไม่ต้องลังเล หากชักช้าอาจต้องรอกันถึงปีหน้าหรือปีต่อไปครับ