“ดุสิต ดีทู เชียงใหม่”
— สัมผัสใหม่ห้องอาหารไทย “คาเฟ่ ซอย” —
กลางสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากเทศกาลสงกรานต์ มีโอกาสได้ไปลองทานมื้อกลางวันห้องอาหารเปิดใหม่ “คาเฟ่ ซอย (Café Soi)” ที่โรงแรม “ดุสิต ดีทู เชียงใหม่ (dusitD2 Chiang Mai)” พร้อมส่งท้ายอำลาห้องอาหารเดิม “ม็อกซี่ (Moxie Restaurant)” ซึ่งเคยมาทานอยู่หลายครั้งเหมือนกันครับ
“Moxie Restaurant” ย้อนไปเมื่อวันวาน
「Moxie Restaurant / dusitD2 Chiang Mai」Extreme Sunday Buffet Lunch ~ Secret of the Caribbean
https://oatenroute.com/2015/06/20/0201001/
ห้องอาหารใหม่จะให้บริการอาหารไทยและอาหารพื้นเมืองทางเหนือเป็นหลัก แทนที่ของเดิมซึ่งจะออกแนวอาหารไทยประยุกต์สไตล์ “Fusion” ซึ่งเริ่มเปิดอย่างทางการ “วันที่ 20 เมษายน 2560” และใช้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม
ห้องอาหาร “คาเฟ่ ซอย”
ทางโรงแรม “ดุสิต ดีทู เชียงใหม่” ต้องการเปลี่ยนสไตล์ของอาหารมาเสนอความเป็นไทยและเป็นพื้นถิ่นของเชียงใหม่ แทนที่ของห้องอาหาร “ม็อกซี่” เดิม พร้อมทั้งออกแบบเมนูอาหารใหม่ รวมไปถึงอุปกรณ์บนโต๊ะ เช่น ภาชนะจานชามเปลี่ยนใหม่หมด สั่งปั้นเป็นพิเศษให้มีความเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ปรับบรรยากาศโดยรวมของร้านอาหารและชุดพนักงาน พร้อมก้าวสู่อาหารแนว “ไทย-เชียงใหม่” นำทีมโดย “เชฟฉลอง สักกพลางกูร” เชฟใหญ่ของห้องอาหารเป็นคนลงมือออกแบบเมนูอาหารเองเลยครับ
เปิดบริการทุกวัน : 12.00 น. – 22.30 น.

ห้องอาหารจะมีเมนูกับข้าวมากมาย หรือหากช่วงเวลาเร่งรีบก็มีอาหารจานเดียวให้เลือกเช่นกัน วันที่ไปลองชิม ทางห้องอาหารจะเตรียมเมนูอาหารชุดให้เลือก เพื่อที่จะได้ลองชิมอาหารที่อยากแนะนำได้หลากหลาย ตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยไปจนถึงของหวานล้างปากครับ
Dusit Signature :
ทางห้องอาหารจะมีเมนูแนะนำของ “เครือโรงแรมดุสิต” นั่นก็คือ “ผัดไทกุ้ง” เมนูอาหารไทยที่ขึ้นชื่อไปทั่วโลกนั่นเอง สำหรับที่นี่ เมนูซึ่งเป็นเอกลักษณ์จนเป็น “Signature” ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ ทางผู้บริหารมีโอกาสไปทานเมนูผัดไทกุ้งของโรงแรมในเครือ แต่พบว่าทำไมรสชาติไม่เหมือนกันเลย จึงได้กำหนดให้หาสูตรที่ลงตัวและต้องเหมือนกันทุกแห่ง ฟังมาอย่างนี้ รอบหน้าคงไม่พลาดเมนูเด็ดอันนี้แน่นอน วันนี้มารู้เรื่องก็ตอนหนังท้องตึงทานอะไรต่อไม่ไหวแล้วครับ


Café Soi Signature :
ทางห้องอาหารได้ตัดสินใจเลือกเมนูสิ้นคิดของคนไทยอย่าง “ผัดกะเพรา” มาออกแบบให้แปลกตาขึ้นมา โดยจะนำมาใส่แม่พิมพ์วงกลมให้ออกมาเหมือนแฮมเบอร์เกอร์ ค่อยๆ ทำทีละชั้น ล่างสุดเป็นข้าว Riceberry ถัดขึ้นมาเป็นเนื้อบด และปิดชั้นบนสุดด้วยผัดกะเพรา มีให้เลือกทั้งไก่ หมู และเนื้อ พร้อมโปะไข่ดาวไม่สุกมาให้ด้วยฟองนึงสุดฟินเลยทีเดียว
ป.ล. ความเห็นส่วนตัวสำหรับเมนูนี้ ผมว่ารสชาติอร่อยดีครับ แต่ส่วนตัวชอบทานแบบเนื้อสับหยาบๆ ที่คุ้นเคย ไม่ละเอียดมากแทนเนื้อบดคล้ายกับ “เบอร์เกอร์” ซึ่งทางโรงแรมคงตั้งใจอยากให้อาหารมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่หากินได้ทั่วไปนั่นเอง



สรุปโดยรวมของอาหารชุดมื้อนี้ครับ อาหารอร่อยได้มาตรฐานโรงแรม รสชาติเป็นไทยดีครับ มีความเข้มข้น แต่เมนูที่ขโมยซีนมากสำหรับผมเป็นของหวาน คำแรกที่เข้าปากจะนึกถึง “ไอติมป่าตัน” ในตำนานที่โด่งดังของเชียงใหม่มาตั้งแต่รุ่นพ่อ ที่ทานกับขนมปังตามรถเข็น เป็นความอร่อยที่คุ้นลิ้นตั้งแต่วัยเด็ก แต่ที่เพิ่มเติมเป็นสไตล์ไฮโซนั่นเอง แต่ยังคงความอร่อยแบบไอติมกะทิใส่ขนมปัง และก็โปะด้วยข้าวเหนียว ลูกชิด และโรยถั่ว ก่อนที่จะราดนมข้นจืดเป็นการเสร็จพิธี หลังจากได้คุยกับทางโรงแรม ก็ทราบว่าได้ไอเดียมาจากไอติมรถเข็น สำหรังไอติมกะทิจะทำเองเป็นสูตรลับ และมีกลิ่นหอมและรสหวานเพิ่เติมมาของสังขยาใบเตยที่ทาขนมปังทำให้อร่อยมากไปอีก ทานแล้วอดใจไม่ไหวจนต้องแอบกระซิบขอของหวานมาอีกที่นึงโดยละม่อม เสร็จงานนี้ต้องรีบไปเบิร์นออกซะแล้ว

“รู้หมือไร่?”
ห้องอาหาร “Soi” มีจุดเริ่มต้นมาจากโรงแรม “ดุสิตธานี กวม (Dusit Thani Guam)” ในต่างแดน — มีความหมายในภาษาไทยว่า “ถนน” — โดยจะเน้นให้บริการสำหรับแขกที่ต้องการสัมผัสอาหารไทยแท้แบบดั้งเดิม ในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ควรค่าสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำ

สุดท้ายอยากขอบคุณ “น้องฝ้าย” กับ “คุณเปิ้ล” และทาง “dusitD2 Chiang Mai” ที่นึกถึงกันมาตลอด รวมถึงครั้งนี้ ชวนมาลองชิมอาหารไทยก่อนเปิดตัวห้องอาหารจริงอย่างเป็นทางการ มื้อนี้อิ่มอร่อยประทับใจเช่นเคยครับ
Photo Gallery