“Cape Panwa Hotel” ～ Summer Hideaway on a Private Beach

“โรงแรมเคปพันวา”

— วันสบายริมชายหาดส่วนตัว —

ทริปนี้ยังคงอยู่กันที่ภูเก็ตครับ เป็นครึ่งหลังก่อนส่งท้ายปิดเทอมใหญ่กันที่ “โรงแรมเคปพันวา (Cape Panwa Hotel)” — http://www.capepanwa.com — บริเวณสุดปลายแหลมพันวา

(ความเดิมจากตอนที่แล้ว)

「 เดอะนาคา ภูเก็ต 」 เรียบง่ายดีไซน์หรู (พูลวิลล่าที่ฝันถึง) — http://pantip.com/topic/35275171

รอบนี้เป็นการมาพัก “โรงแรมเคปพันวา” เป็นรอบที่สามแล้ว เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทโปรดของครอบครัวเลยครับ ครั้งแรกที่พวกเรามาภูเก็ตก็เลือกที่นี่เป็นจุดหมาย ดีใจที่วันนี้มีโอกาสกลับมานอนกันอีกรอบครับ เสียดายแต่ว่ามีเวลาจำกัดเพียงคืนเดียว ไม่เหมือนทุกครั้งที่จะมาพักอย่างน้อย 2 คืน หรือนานกว่านั้น ก็เลยขอรีวิวแบบมินิสั้นๆ ละกันครับ

กลับมาครั้งนี้มีอะไรเปลี่ยนไปพอควร ประมาณปีสองปีที่ผ่านมาทางโรงแรมได้ปรับปรุงใหม่ เริ่มกันตั้งแต่มาถึง Lobby กันเลย ยกเครื่องใหม่หมดแทบจำของเดิมไม่ได้ ชอบมากโดยเฉพาะตอนกลางคืนครับ

รอบนี้พักห้อง “Cape Suite” เป็นการทุบกำแพงห้องพักเดิมให้กว้างขึ้นครับ จากเดิมสองห้องเหลือเพียงเดียวแต่กว้างขึ้นมาก การตกแต่งดูโมเดิร์นกว่าเดิม ได้กลิ่นอายเล็กๆ ของ “โรงแรมเคปนิทรา (Cape Nidhra Hotel)” — http://www.capenidhra.com — รีสอร์ทในเครือที่หัวหิน “Cape Hotel Collection” (ตระกูลเคปอันล่าสุด) ที่ผมอยากกลับไปอีกรอบมากๆ

ห้องน้ำใหม่ที่ไฉไลกว่าของเดิม

ห้องแต่งตัวใหม่ที่ของเดิมน่าจะเป็นทางเข้าห้อง ทำใหม่จนนึกถึงของเดิมแทบไม่ออก

จุดเด่นของรีสอร์ท คือ “หาดส่วนตัว” ที่กว้างมาก จำได้ว่าทรายขาวนุ่มเท้าสุดๆ มารอบนี้เจอก้อนหินบ้าง คิดว่าน่าจะขึ้นกับจังหวะฤดูที่มาด้วย ยังไงก็ตาม ที่เหมือนเดิมก็ความยาวหน้าหาดที่เป็นของแขกที่มาพักเท่านั้น

ที่เห็นด้านหน้าเป็น “บ้านพันวา (Panwa House)” ที่เป็นร้านให้บริการอาหารไทยในช่วงหัวค่ำ บ้านตากอากาศหลังสีขาวทรง “Sino-Portuese” นอกจากงดงามตามท้องเรื่องสไตล์ภูเก็ตแล้ว หลายคนอาจรู้สึกคุ้นตาเหลือเกิน เพราะที่นี่ใช้เป็นฉากในการถ่ายละครดังๆ หลายเรื่องทีเดียว อย่างล่าสุดก็ “หนึ่งในทรวง” ที่เป็นฉากสุดโรแมนติกของ “คุณหนึ่ง (เจมส์จุ)” และ “หนูปุ้ม (ญาญ่าคนสวย)” ถ้านึกไม่ออกลองไปขุดมาดูกันนะครับ

ทางเดินสีขาวทอดยาวไปในทะเล เห็นแล้วอยากวิ่งไล่จับ “น้องญาญ่า” เหลือเกิน #ทีมพ่อบ้านใจกล้า

ป.ล. จังหวะที่ผมไปถ่ายเหมือนเป็นก้างปักคอคู่รักชาวญี่ปุ่นที่มากันสองคน (ความจริงผมมาก่อน) ดูเหมือนเขากำลังจะไป “จุ๊บๆ” กัน แต่เผอิญผมถ่ายรูปยืนอยู่ตรงนั้นก็เลยเหมือนไม่ฟินเท่าที่ควร

ชอบสะพานนี้ เวลาจะไปเกาะเฮก็มาโบกเรือของโรงแรมกันแถวนี้เลยครับ แต่บางครั้งต้องนั่งรถย้อนลงไปขึ้นกันอีกฟากนึงแถวๆ “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต (Phuket Aquarium)” หาดสวยแม้ว่ารอบนี้เหมือนเจอหินบนหาดเยอะ แต่ก็ยังสวยอยู่ดี แต่พอจังหวะน้ำลดนี่ด้านล่างจะเป็นโขดหินทอดยาวออกไปไกลเหมือนกัน จังหวะน้ำขึ้นสามารถเล่นน้ำได้สนุกเลย เพราะหน้าหาดค่อนข้างราบ ทีเด็ดจะอยู่ตรงทางเดินปูนเปลือยโทรมๆ ที่อยู่ด้านหน้า “บ้านพันวา” จังหวะที่น้ำลดถึงจะเห็นครับ สามารถเดินออกไปได้ไกลพอควร มองออกไปที่พื้นด้านข้างจะมีปะการังและก็ปลาสีสวยมากมาย เสียดายจังหวะที่โดนสึนามิ แนวปะการังน่าจะเสียหายไปบ้าง แต่ว่าจากที่คนใกล้ตัวเคยมาพักวันที่เกิดสึนามิ คุยกันได้ความว่าน้ำลดออกไปไกลมาก แต่แขกที่มาพักปลอดภัย ส่วนนึงคงเป็นเพราะมีแหลมพันวาบังคลื่น และก็ความลาดชัดหน้าหาดก็คงเป็นอีกเหตุผลนึง (ตามความเห็นส่วนตัว) แต่ก็เสียดายที่ปะการังก็โดนลูกหลงบ้าง จากที่ผมเคยออกไปเดินดูเมื่อประมาณปีนึงหลังเกิดสึนามิครับ

พอท้องฟ้าเริ่มมืด กวางน้อยก็โทรมาตามให้พาลูกหม่ำแล้วก็อาบน้ำด้วย ราชสีห์เลยต้องรีบวิ่งป่าราบกลับห้อง

ป.ล. อันนี้บริเวณที่นั่งของแขกด้านข้าง Lobby ซึ่งจะมีรถราง (Tram) ให้บริการส่งแขกลงไปด้านล่างหาด ถ้าเดินเองเมื่อยมากตะคริวจะกินเอา ตอนเมื่อหลายปีก่อนลองมาแล้ว รอบนี้ประหยัดพลังงานดีกว่า

ระหว่างทางถึงแม้ต้องรีบกลับ แต่ตากล้องราชสีห์ใจกล้าก็แอบแวะถ่ายรูปตามรายทางอย่างไม่เกรงกลัว

ตอนแรกตั้งใจจะทานข้าวเย็นเป็นอาหารไทยที่ “บ้านพันวา” ด้านล่าง แต่ช่วงที่ไปร้อนมากเหงื่อซิก เลยขอนั่ง “Top of the Reef” ห้องอาหารติดแอร์หนึ่งเดียวของรีสอร์ท — ที่เหลืออีกหลายแห่งเน้นรับลมธรรมชาติ เสียดายคืนเดียวไม่สามารถไปเก็บบรรยากาศมาหมด หากใครต้องการนั่งดื่มอะไรเย็นๆ ฟังเพลงติดแอร์ สามารถแวะ “Otter’s Bar” ซึ่งอยู่ติดกับ “Top of the Roof” กรณีอยากรับลมธรรมชาติก็นั่งทานที่ระเบียงด้านนอกได้ครับ

สำหรับห้องอาหารทั้งคู่นี้ ขอเน้นเรื่องการแต่งตัวให้เรียบร้อยนิดนุง ผมก็เลยต้องอาบน้ำเสริมหล่อฉีดน้ำหอม และก็ใส่กางเกงขายาวให้สุภาพนิดนึง ไม่งั้นเข้าไปอาจตะลึงได้ แขกต่างชาติจัดเต็มกันเหลือเกิน เปิดให้บริการช่วงหัวค่ำ ถ้าจะไปลองทานอย่าลืมเตรียมรองเท้าเรียบร้อยด้วยครับ

มาที่นี่แล้วได้จัดอาหารชุดใหญ่ประจำวันครับ ค่าเสียหายประมาณเซ็ตละ 950 (++) บาท อร่อยแบบเต็มคอร์สเลยทีเดียว #ฟินเฟร่อ

ตัดภาพมาเช้าอีกวันเลยครับ ตั้งใจปลุกนาฬิกาไว้ตีห้ากว่า เปิดไว้เบาไปนิดเพราะกลัวลูกตื่น สุดท้ายผมเลยไม่ได้ยินไปด้วย ตื่นมาอีกทีเป็นอย่างนี้เสียแล้ว — #ร้องไห้หนักมาก — ที่จริงตรงนี้เหมาะกับถ่ายรูปหรือดูพระอาทิตย์ขึ้นมากครับ อย่างน้อยตีห้าครึ่งต้องมาพร้อมกันตรงนี้

มองมาที่ “บ้านพันวา” แถวนี้ตอนกลางวันนี่โดนชาวต่างชาติจองเตียงผ้าใบหมด ถัดไปด้านข้างจะเป็นสระว่ายน้ำริมหาดด้านล่างครับ

นี่เป็น “Tram” ที่บอกไว้ครับ มาถึงก็สั่นระฆัง เจ้าหน้าที่ก็จะส่งรถรางลงมารับ — นั่งได้ไม่เกิน 7 คน

ด้านขวามือของ Lobby จะเห็นป้ายนี้บอกทางไปขึ้นรถรางครับ เช้านี้หลังทานข้าวย้อนลงไปอีกรอบเป็นการส่งท้ายครับ

อากาศร้อนมากพระอาทิตย์เกือบตรงหัวแล้วครบ แถวนี้ต้นมะพร้าวเยอะดีเป็นดงเลย ได้บรรยากาศชายทะเลมากๆ สามารถมาลงชื่อยืมผ้าเช็ดตัวสำหรับเล่นน้ำที่ทะเลหรือสระข้าง “บ้านพันวา” ได้ครับ

ก่อนได้เวลาเช็คเอาท์ ผมแวะทานขนมที่ “Cafe Andaman” ห้องที่ทานอาหารเช้า เป็นห้องอาหารหลักที่ให้บริการตลอดทั้งวัน ซึ่งจะมีมุมเล็กๆ ทั้งไอติมและเค้กอร่อยๆ ที่มาจาก “Cafe Kantary” ของโปรด

พอเช็คเอาท์เสร็จ คืนนี้ผมย้ายไปนอนแถวไม้ขาวเพราะสะดวกและใกล้สนามบินครับ เป็นอีกหาดที่ผมชอบดูพระอาทิตย์ตก ถือว่าเป็นการอำลาทริปภูเก็ตเลยละกันครับ

ขากลับก็ใช้บริการบินตรงกับ AirAsia เช่นเคยครับ

ภูเก็ตนี่มาทีไรรู้สึกไม่อยากกลับทุกทีเลย รอบหน้าคิดว่าสนามบินส่วนขยายน่าจะเสร็จแล้ว ท่าทางสวยทีเดียวครับ

ขากลับเลือกนั่งข้างขวาจะได้ชมวิวหมู่เกาะพังงาชัดๆ

มองจากข้างบนชอบมากเลย เห็นเป็นแม่น้ำคดเคี้ยวไปมาครับ

ขากลับสั่งอาหารเบาๆ ซื้อล่วงหน้าถูกกว่าพอสมควร

ลูกชายสนใจโมเดลเครื่องบิน เห็นรบเร้ามาหลายรอบแล้วครับ ตอนหลังชอบเปิดดู Catalog บนเครื่องบิน แล้วก็แย่งที่นั่งริมหน้าต่างของป๊ะป๋า

ทริปนี้จบลงด้วยการเดินทางโดยสวัสดิภาพ ขอบคุณไทยแอร์เอเชีย และก็แอร์น่ารักๆ ด้วยนะครับ #พ่อบ้านใจกล้า

ป.ล. ขอสารรูปเลยครับว่ารูปนี้ตอนแรกตั้งใจถ่ายแต่เครื่องเปล่าๆ แต่เผอิญว่าน้องๆ แอร์เข้าใจผิดนึกว่าเราอยากได้คนมาประกอบด้วย น้องอุตส่าห์แกะถุงมือระหว่างเก็บกวาดทำความสะอาดบนเครื่องผมก็เลยเกรงใจครับ แล้วก็ที่จริงผมไม่ค่อยถนัดถ่ายคนเท่าไหร่ (เขียนแก้ตัวมาขนาดนี้กวางน้อยมาเห็นจะรอดไหมเนี่ย)

ทริปหน้าคงได้กลับมาเดินทางกับไทยแอร์เอเชียอีกแน่นอน ขอปิดท้ายกันที่ใบนี้เลยแล้วกันครับ

สรุปว่าทริปที่สามสำหรับการมาพักที่ “โรงแรมเคปพันวา” คงประทับใจเหมือนเคย โดยเฉพาะลูกชายก็ชอบเล่นทรายที่หาดมาก ไม่แปลกใจว่าที่นี่จะมีบุคคลสำคัญต่างๆ มาแวะเวียนไม่ขาด ตั้งแต่ Celeb ระดับดารา Hollywood มาจนถึงระดับขี้เล็บอย่างผม รวมไปถึงเป็นสถานที่ถ่ายละครต่างๆ มากมาย ยิ่งตอนหลังปรับปรุงใหม่น่าพักกว่าเดิม

ความเห็นส่วนตัวก็รีสอร์ทอยู่ค่อนข้างไกลจากเมือง ถ้าจะทานข้าวในเมืองก็คงต้องไปไกลทีเดียว สำหรับอย่างอื่นไม่ว่างานบริการหรืออาหาร ผมว่าค่อนข้างโอเคทีเดียว รีสอร์ทนี้จึงเป็นตัวเลือกของผมตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวภูเก็ตเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าตอนหลังราคาจะอัพขึ้นมาบ้างกว่าครั้งที่ผ่านมา

สำหรับข้อดีก็ตรงที่มีหาดส่วนตัว ห้องพักปรับปรุงใหม่ ห้องอาหารมีให้เลือกหลายอย่าง แล้วก็มีร้านเค้กแสนอร่อยให้บริการด้วย หากต้องการเที่ยวใกล้ๆ สามารถนั่งเรือไปเกาะเฮได้ ใช้เวลาไม่นานเลย จากท่าเรือถ้าจำไม่ผิดนี่ไม่น่าเกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวขอไปเช็คข้อมูลอีกที เพราะซื้อทัวร์เพิ่มตั้งแต่ตอนมาเที่ยวครั้งแรกๆ เลยครับ

สรุปข้อดีและเสียคร่าวๆ ในมุมมองที่ผมเจอมาก็ประมาณนี้ล่ะครับ อาจมีขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่โดยรวมผมค่อนข้างประทับใจ ยังไงก็ตามเพื่อประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติม แนะนำว่าลองไปเช็คดูจากเว็บที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมารีวิวประกอบด้วยจะดีมากครับ เช่น TripAdvisor เป็นต้น

สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านหรือทักทายกันครับ ขอขอบคุณเป็นพิเศษ “Thai AirAsia” บินตรงจากเชียงใหม่วันละ 3 เที่ยว และขอบคุณอย่างเป็นทางการสำหรับ “โรงแรมเคปพันวา” ด้วยครับ

เจอกันตอนหน้าเร็วนี้แน่นอนครับ เด๋วพรุ่งนี้ขอตั๋วหนีไปเที่ยวทะเลก่อน มาลุ้นกันว่าผมจะเจอฝนรึเปล่า ยังไงฝากร่วมด้วยช่วยปักตะไคร้จะได้มีรูปสวยๆ มาฝากกันครับ