ครั้งแรกกับบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น “เจดับบลิว เจแปนนิส ซันเดย์บรันช์”
— “คาบูกิ เจแปนนิส คูซีน เธียเตอร์ / โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต รีสอร์ทแอนด์สปา” —
หลังจากที่เคยประทับใจกับอาหารญี่ปุ่นที่ห้องอาหาร “Kabuki Japanese Cuisine Theatre / JW Marriott Phuket Resort & Spa” เมื่อประมาณสองปีก่อน ช่วงต้นปีที่ผ่านมาผมมีโอกาสกลับไปอีกทีครับ แต่ครั้งนี้ถึงคิวของบุฟเฟ่ต์ “JW Japanese Sunday Brunch” ซึ่งถือว่าเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นครั้งแรกของผมเลย (ไม่นับอาหารญี่ปุ่นในบุฟเฟ่ต์นานาชาติเน่อ) เอาเป็นว่าลองมาดูไลน์บุฟเฟ่ต์ว่าเป็นอย่างไรบ้างดีกว่านะครับ
(พื้นที่โฆษณา) ฝากไปแวะทักทายกันที่เพจและอินสตาแกรมได้นะครับ
Facebook : http://www.facebook.com/oatenroute
Instagram : http://www.instagram.com/warodomphotography
“Kabuki Japanese Cuisine Theatre” ตกแต่งสไตล์โรงละครญี่ปุ่นดั้งเดิม
ขอย้อนเวลาไปช่วงปิดเทอมใหญ่ (หัวใจไม่ว้าวุ่น) ต้นปีที่ผ่านมาครับ ผมและครอบครัวมีทริปไปเที่ยวภูเก็ตเป็นการฉลองก่อนเปิดเรียนภาคฤดูร้อนของลูกชาย โดยก่อนหน้านี้ไปพักสองคืนที่ “Hyatt Regency Phuket Resort” แล้วก็สองคืนสุดท้ายก็ย้ายมานอนแถวหาดไม้ขาว โดยมีโปรแกรมบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเป็นการปิดท้ายทริปนี้ครับ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว (ทริปเดียวกันเบย) :
“Hyatt Regency Phuket Resort” — Summer Hideaway Destination
Link : https://oatenroute.com/2015/06/19/0102004
“JW Sunday Buffet Brunch — Kabuki Japanese Cuisine Theatre”
วันอาทิตย์ก่อนที่จะเดินกลับ พวกเรามีโปรแกรมหม่ำบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น “JW Sunday Buffet Brunch” ที่ห้องอาหาร “Kabuki Japanese Cuisine Theatre / JW Marriott Phuket Resort & Spa” ซึ่งถือว่าเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นครั้งแรกของผมเลย ปกติเคยทานแต่บุฟเฟ่ต์นานาชาติ อันนี้จัดเต็มอาหารญี่ปุ่นอย่างเดียว รวมไปถึงเป็นครั้งแรกของทาง JW ที่เปิดให้บริการซันเดย์บรันช์อาหารญี่ปุ่นที่ภูเก็ตเป็นแห่งแรกด้วย — เมื่อเดือน 27 กรกฎาคม 2557 ช่วงที่ผมไปก็เปิดได้ประมาณครึ่งปีพอดีครับ
“เห็นแล้วอยากซดสาเกขึ้นมาทันใด” #เมาไม่ขับ
สำหรับห้องอาหารคาบูกินี้ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผมถือให้เป็นอันดับต้นๆ ในดวงใจจากที่เคยได้ทานเลย และครั้งนี้เป็นรอบที่สองที่ได้กลับมาห้องอาหารนี้ หลังจากที่สองปีก่อนหน้าผมได้มาทานแบบ “A la carte” แล้วฟินสุดจนเก็บไปฝันอยู่หลายเดือนทีเดียวครับ แต่คราวนี้กลับมาลองเปลี่ยนบรรยากาศสไตล์บุฟเฟ่ต์ดูบ้าง
เหล้าสาเกเรียงรายน่าลองไปหมด
บุฟเฟ่ต์ที่นี่ เนื่องจากว่าเป็น “Sunday Brunch” จึงมีเฉพาะวันอาทิตย์มื้อเที่ยงเท่านั้น และก็ในช่วงโลว์ก็จะหยุดพักไปก่อนครับ หลังจากที่ผมทานก็หยุดให้บุฟเฟ่ต์ยาวหลายเดือน พึ่งกลับมาเปิดอีกรอบก็เมื่อ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้เองจ้า
“Sashimi Station” มุมโปรดของผมเลยครัช
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูกันว่าในส่วนของบุฟเฟ่ต์มีอะไรให้ทานกันบ้าง เริ่มกันที่ซุ้มตรงกลางซึ่งเป็นเมนูหลักกันเลยดีกว่า ก็จะมีพวก “Sushi & Sashimi” หลายชนิดให้บริการครับ
ในส่วนของข้าวปั้น ก็จะมีทั้ง “Nigiri” ข้าวปั้นหน้าปลาดิบ และก็ “Maki Rolls” แบบม้วน
หลังจากที่ได้ชิมปลาดิบและข้าวปั้นต่างๆ ผมชอบตอนเป็น “A la carte” มากกว่าเพราะว่าเวลากินแล้วจะแล่ให้ทานสดๆ ซึ่งเป็นข้อเสียของเวลาทานบุฟเฟ่ต์แทบทุกแห่งครับ หากมารอหั่นทีละชิ้นก็คงไม่ทันการแน่นอน มาถึงตอนนี้ผมยังฝันถึงคราวที่ได้มาทาน Sashimi ขั้นเทพเมื่อสองปีก่อนอยู่เลย ทานเข้าปากแต่ละคำนี่ทำเอาน้ำตาจะไหลด้วยความอร่อย
ย้อนรอยทานอาหารญี่ปุ่น “Kabuki Japanese Cuisine Theatre” รอบที่ผ่านมา :
Savory Japan “Kabuki Japanese Cuisine Theatre” — “JW Marriott Phuket Resort & Spa
Link : https://oatenroute.com/2015/12/03/0201005
บริเวณซุ้มเดียวกันก็จะมีพวกเมนูเรียกน้ำย่อยทานเล่นพอดีคำ
มุมโปรดสำหรับคนรักปลาดิบครับ
อีกมุนนึงที่อยู่บริเวณด้านข้าง “Sashimi Station” ก็จะเป็นพวกของทอดและก็ซุป ที่เห็นในจานก็จะเป็น Takoyaki กับ Gyoza ซึ่งก็จะมีเติมมาเรื่อยๆ
ไข่ตุ๋นถ้วยน้อยรอคอยอยู่ตรงเน้
ในหม้อนึ่งก็จะมีไข่ตุ๋นร้อนๆ อันนี้เด็กน่าจะชอบครับ ลูกผมนี่เดินไปตักสามรอบเพราะเป็นเมนูโปรดอยู่แล้ว
“Tempura Station”
อีกด้านหนึ่งของห้อง ช่วงปกติจะเป็นแนวที่นั่งพิเศษหน้าเตา สำหรับแขกเวลามาทาน “Teppanyaki” พวกอาหารกระทะร้อนที่ทำโชว์สดๆ วันนี้ยกเก้าอี้ออกดัดแปลงเป็นซุ้มอาหารที่จะมีเชฟมาคอยทำให้สดๆ ตามที่แขกต้องการอีก โดยอันในสุด “Tempura Station” จะเป็นพวกของชุปแป้งทอดต่างๆ มีตั้งแต่กุ้งไปถึงผักหลากชนิด อยากชิมอันไหนก็บอกให้เชฟจัดให้ บอกหมายเลขโต๊ะไว้จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอ และก็ “Noodles Station” อยู่ติดกันจะมีทั้ง Udon และ Soba ให้ทานได้ตามต้องการ ผมสั่งอุด้งร้อนมาทานกับกุ้งชุบแป้งทอดก็เข้ากันดีครับ
“โชว์โยนไข่กับตะหลิวทำเอาลูกชายผมอึ้งไปเลยครับ”
เตากลางจะให้บริการ “Japanese Fried Rice” หลักๆ ก็เน้นข้าวผัดและก็ยากิโซบะเลยครับ เลือกได้ว่าอยากใส่อะไรบ้าง ทำสดๆ อร่อยดี ซึ่งปกติแล้วเวลามาทานบุฟเฟ่ต์ มักจะมุ่งเน้นคืนกำไรไปที่ซุ้มปลาดิบกันเสียส่วนใหญ่ แต่จุดขายของที่นี่ก็เหมือนกับช่วงปกติที่เปิดเป็น “A la carte” ตามสไตล์ของ “Kabuki Japanese Cuisine Theatre” คือ เน้นโชว์ลีลาทำกับข้าวอย่างสนุกสนานมากกว่า ซึ่งเชฟทั้งหลายแต่ละคนจะมีลูกเล่นโยนไข่หรือตะหลิวระหว่างผัดข้าว รวมไปถึงจุดไฟบนกระทะเหล็กให้พวยพุ่งขึ้นมา สร้างความตื่นตาตื่นใจและเรียกเสียงเชียร์ได้พอสมควรครับ
“Station นี้ชนะเลิศเลยค้าบ”
ส่วนเตาอันแรกสุดจะเป็นพวก Teppanyaki ครับ มีทั้งเนื้อสัตว์และอาหารทะเล ปกติผมเป็นคนชอบปลาดิบ แต่สำหรับที่นี่ผมเทใจให้กับมุมนี้ โดยเฉพาะเนื้อแกะที่ตอนเสร็จใหม่ๆ นี่หอมน่าทานมาก ตอนทานก็แทบไม่มีกลิ่นเหม็นเลยครับ หากสนใจอาหารทะเลก็จะมี ปลาแซลมอน ปลาหมึก ปลากะพง หอยเชลล์ และกุ้งลายเสือ ส่วนพวกเนื้อนอกจากแกะแล้ว ก็จะมีเนื้อกับไก่เสียบไม้ย่าง แถมด้วยโชว์เพลินๆ ระหว่างรออาหารอีกด้วย
มาจิบสาเกกันดีกว่า “อิๆ”
มาปิดท้ายกันที่ส่วนของซุ้มเครื่องดื่มและของหวานล้างปาก ในส่วนของเครื่องดื่มนี่จะรวมในบุฟเฟ่ต์อยู่แล้วครับ โดยมี Soft Drinks ได้แก่ น้ำอัดลม ชาเขียว และน้ำผลไม้ต่างๆ
“งานนี้จัดสาเกให้ชื่นใจ”
แต่ถ้าต้องการดื่มแบบ Premium ก็จ่ายเงินเพิ่มอีก 600++ THB ก็จะได้ ไวน์ เบียร์ หรือสาเก แบบเติมไม่อั้นภายในเวลาสองชั่วโมง เห็นชาวต่างชาติชอบดื่มก็เลยจ่ายเพิ่มกันไป ส่วนผมนี่เน้นชิวๆ คิดว่าลำพังเครื่องดื่มที่มากับบุฟเฟ่ต์ก็พอแล้วครับ
“เห็นแล้วน่าหยิบมาอย่างละสี”
ตบท้ายกันอย่างงดงามด้วยของหวานที่ทำเป็นซูชิหน้าผลไม้ครับ อารมณ์ประมาณทานข้าวเหนียวมะม่วงแล้วเปลี่ยนหน้าผลไม้ไปเรื่อย แต่ชอบตรงไอเดียที่ทำมาเข้ากับบรรยากาศบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นครับ
ขนมหวานน่าทานทีเดียว
นอกจากทีเด็ดขนมหวานข้างบนที่เป็นข้าวเหนียวหน้าผลไม้แล้ว ก็จะมีขนมหวานอื่นๆ ให้บริการ เช่น Chocolate Fondue และที่ชอบเป็นการส่วนตัวก็ไอติมทอด ทานไปหนึ่งลูกไม่สะใจเลยขอซ้ำอีกรอบครับ
“นินๆ” พ่อครัวแอบเรียนวิชานินจามาด้วยแน่เลย
บทสรุปส่งท้ายสำหรับบุฟเฟ่ต์วันนี้นะครับ ก่อนมาทานตั้งใจไว้เลยว่าจะมาจัดหนักกับ Sashimi กับ Sushi ที่ยังฟินมาจากรอบที่แล้ว แต่พอมานี่แอบปันใจไปให้กับ Teppan Station เพราะชอบเนื้อแกะเป็นการส่วนตัว (รอบเดียวไม่พอ) และก็เนื้อวัวก็ใช้ได้ครับ ส่วนปลาดิบนี่หากทานหรือแล่สดๆ เหมือนตอนทานรอบที่แล้วคงจะดีมาก แต่ก็เข้าใจครับว่า ถ้าสั่งทานแบบ A la carte สั่งปลาดิบแค่ชุดเดียวก็ราคาพอกับบุฟเฟ่ต์วันนี้แล้ว ดังนั้นพวกเกรดวัตถุดิบก็คงปรับเปลี่ยนบ้างตามเหมาะสม
JW Japanese Sunday Brunch :
อาหารรวมของหวานและเครื่องดื่ม Soft Drinks : 1,900++ THB
เครื่องดื่ม Premium แบบไม่อั้นตลอดสองชั่วโมง ได้แก่ Wine / Sparkling Wine / Beer / Sake : 600++ THBเวลา : เปิดให้บริการ 12.00 น. ถึง 15.00 น. / เฉพาะวันอาทิตย์
หมายเหตุ : สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ทานฟรี และเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี จ่ายครึ่งราคา (950++ THB) / พร้อมได้รับสิทธิ์ใช้บริการ “Kid’s Pavilion & Swimming Pool” ฟรีตลอดทั้งวัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : +66 (076) 338 000
และแล้วก็จบอย่างเป็นทางการกับบุฟเฟ่ต์ “JW Japanese Sunday Lunch” ทานกันอิ่มมากจนแทบต้องปลดตะขอกางเกงอีกตามเคย แล้วรอบหน้ามาลุ้นกันว่าจะไปเที่ยวหรือหม่ำอะไรดีนะครับ
ขอขอบคุณ โรงแรม “JW Marriott Phuket Resort & Spa” และทีมงานทุกคน โดยเฉพาะห้องอาหาร “Kabuki Japanese Cuisine Theatre” ที่ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้งกับอาหารและการต้อนรับที่ประทับใจมาตั้งแต่ครั้งก่อน หากมีโอกาสคงได้กลับไปหม่ำปลาดิบสดๆ อีกรอบนะครับ
รอบนี้มาจอดไกลเลยเพราะสนามบินภูเก็ตกำลังปรับปรุงครั้งใหญ่
เสร็จแล้วก็เดินทางกลับเชียงใหม่ในวันถัดมาเลยครับ เป็นทริปที่แสนประทับใจอีกครั้ง ทั้งโรงแรมที่พักตลอดทั้ง 4 คืน รวมไปถึงได้ทานอาหารอร่อยๆ ปิดท้ายการเดินทางด้วยสายการบินสุดเลิฟ “Bangkok Airways” บินตรงกลับเชียงใหม่ไม่ต้องไปอ้อมถึงดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ
ด้านหน้าว่างเพราะรอผู้โดยสารที่ต่อเครื่อง
เสียดายไม่มีบรรยากาศจาก Lounge ของบางกอกที่สนามบินมาเลยครับ เพราะว่าช่วงนี้สนามบินภูเก็ตกำลังปรับปรุงครั้งใหญ่ ห้องพักผู้โดยสารก็เลยแออัดมากจนแทบปริ คงรอขยายและทำใหม่ตอนเปิดอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เลย หวังว่ากลับมาครั้งต่อไปคงได้ไปลองใช้บริการครับ
ลูกชายแย่งที่นั่งประจำข้างหน้าต่าง — “Fly Boutique, Feel Unique”
ขอขอบคุณ “Bangkok Airways” สายการบินที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง และดูแลกันด้วยดีเสมอมาครับ ต้อนรับอบอุ่นพร้อมบริการแสนประทับใจทุกครั้ง ที่สำคัญแอร์บนเที่ยวบินรอบนี้น่ารักมาก บินครั้งหน้าคงได้กลับมาบินด้วยกันอีกแน่นอนครับ #ทีมญาญ่า
(พื้นที่โฆษณา) ขอฝากไว้ในอ้อมใจด้วยนะครับ :
FB : http://www.facebook.com/oatenroute
Instagram : http://www.instagram.com/oatenroute
เชิญคลิ๊กที่รูปเพื่อเข้าชม Photo Gallery นะครับ